KEY :
- วานนี้ กลุ่มทะลุฟ้า จัดกิจกรรมปราศรัยหัวข้อ ”สำนักงานตำรวจฯต้องรับผิดชอบการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ” จากกรณีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา
- พร้อมนำเอกสารแสดงข้อเรียกร้อง 3 ข้อ มายื่นต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- ทางผู้ช่วย ผบ.ตร. ระบุทางผู้ชุมนุมสามารถไปฟ้องศาลตามขั้นตอน หรือ ยื่นหนังสือ ต่อ.ผบ.ตร.
วานนี้ (24 พ.ย.65) ที่บริเวณถนน พระรามที่ 1 หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีการรวมตัวของผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มทะลุฟ้าจัดกิจกรรมปราศรัยหัวข้อ ”สำนักงานตำรวจฯต้องรับผิดชอบการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ” พร้อมชูภาพภาพเหตุการณ์ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมเมื่อ 18 พฤศจิกายน และข้อเรียกร้องต่าง ๆ
โดยได้นำเอกสารแสดงข้อเรียกร้อง 3 ข้อ มายื่นต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือ 1.ขอให้เจ้าหน้าที่ออกมายอมรับผิดและขอโทษ 2.รับผิดชอบเรื่องค่าเสียหายให้แก่ผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บ 3.ขอให้เปิดชื่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในวันนั้น ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมราษฎรหยุดเอเปค 2022 ที่บริเวณถนนดินสอ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ (18 พ.ย.) ที่ผ่านมาโดยมีแกนนำทั้ง 5 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.สราวุธ การพานิช ผช.ผบ.ตร.
ทั้งนี้ ไผ่ดาวดิน หนึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุม ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ในการเคลื่อนไหวภายหลังยื่นหนังสือว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นเราคิดว่าเพื่อนเราได้รับบาดเจ็บอย่างมากนะครับ วันนี้ก็เพิ่งผ่าตัดตา อันนี้เรื่องที่เกิดขึ้นเราเลยมายื่นหนังสือ เรียกร้อง สตช. ให้รับผิดชอบ 3 ข้อ และหามาตรการแก้ไขความรุนแรงที่เกิดขึ้น
ด้าน พล.ต.ท.สราวุธ กล่าวว่า ผมได้รับมอบหมายจากทางผบ.ตร. ให้มารับมอบหนังสือ ออกมาเรียกร้องกรณีที่เกิดการปะทะกันเมื่อวันที่18 พ.ย. บริเวณถนนดินสอบ ที่มีการประชุมเอเปคจากตัวแทนผู้ชุมนุม การเผชิญหน้าที่เกิดขึ้นผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ผบ.ตร.ก็เป็นประช่ธิปไตย ได้มีการส่งตัวแทนคุยกับผู้ชุมนุมแล้ว ได้มีการจัดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุมแล้ว แต่พอถึงเวลสจริงๆแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น อันนี้ผมไม่ได้โทษนะ ทีนี้พอไม่เป็นไปตามนั้น ทั้งผู้ชุมนุมและตำรวจ ก็ทำหน้าที่ของตัวเอง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ชุมนุมไม่เป็นตามข้อตกลงและบริเวณอนุสาวรีย์ชัยเป็นจุดที่ห้ามเดินผ่าน แต่ผู้ชุมนุมก็พยามจะใช้เส้นทางนั้น ตำรวจก็ต้องทำหน้าที่เผชิญหน้า นี่คือเหตุผลที่อยากให้สื่อรู้ ขณะนี้ ก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้ง 2 ฝ่าย ตำรวจก็เจ็บ14 คน ตาเจ็บเหมือนกัน จากแก๊สที่ผู้ชุมนุมใช้ และเวลาดังกล่าวก็เป็นช่วงที่ไทยได้รับเกียรติให้จัดประชุมเอเปคมันก็ยิ่งใหญ่
โดยผู้ชุมนุม กล่าวต่อว่า ตนเข้าใจเรื่องการทำงานแต่การควบคุมการชุมนุมในครั้งนี้มันรุนแรงเกินกว่าเหตุ ในวันนั้นที่ผู้ชุมนุมเดินจะไปถึงอนุสาวรีย์ก็ไปปะทะกันตรงนั้นเรื่องการถูกริดรอนเสรีภาพต่างๆ คือทั้งหมดที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยตัวตน มันกลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่อยู่ใยภาวะนิรานาม ซึ่งมนการเจ้าหน้าที่ในกฎหมายปกครองมันไม่สามารถอาศัยภาวะนิรนามในการทำงานได้ เมื่อมันไม่มีมาตรการป้องกันตรงนี้ก็ต้องออกมาเรียกร้อง
พล.ต.ท.สราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าเป็นไปตามข้อตกลงมันก็จบ แต่มันไม่เป็นไปตามข้อตกลงเหตุก็เกิด เรื่องค่าเสียหายตำรวจก็เสียหาย ตร.เจ็บ 14 นาย ทรัพย์สินก็เสียหายเยอะมากในส่วนนี้ผบ.ตร.ดูแลอยู่แล้ว ในส่วนผู้ชุมนุมทำได้ไปฟ้องศาลตามขั้นตอน หรือยื่นหนังสือ ต่อ.ผบ.ตร. ผู้ชุมนุมจะตกลงหรือไม่
ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็ตอบว่าตกลงเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการพูดคุยกันก็จะเลือกทางยื่นหนังสือให้กับท่านผบ.ตร. ให้ท่านรับทราบและตอบกลับมาอย่างไรก็ขอฝากให้ดูแลผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บด้วยเพราะตอนนี้ก็รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ
ภาพ – วิชาญ โพธิ