ตำรวจ ปส. กวาดล้างจับกุมและขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติด รวมทั้งการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและในชุมชน และการทำลายเครือข่ายค้ายาเสพติด ตลอดจน การสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับ โดยเน้นย้ำในการสืบสวนหาข่าวเครือข่ายหน้าใหม่ รวมทั้งกลุ่มเครือข่ายเก่า โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คดี
คดีแรกสืบเนื่องจากได้รับแจ้งเบาะแสว่า นายบุญเหลือ หรือรักษ์ เรืองศรี และ น.ส.ภัทราวดี หรือพัช พูลสวัสดิ์ แฟนสาว มีพฤติการณ์ในการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ โดยจำหน่ายให้กลุ่มผู้เสพทั่วไป พักอยู่ที่บ้านเลขที่ 168/186 หมู่บ้านอรุณทอง 5 ถนนเลียบคลองภาษีฝั่งเหนือ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร โดยจะใช้รถแท็กซี่ สีชมพู-ขาว หมายเลขทะเบียน ทษ 6567 กรุงเทพมหานคร ในการส่งยาเสพติด ซึ่งช่วงสายของวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สกส. นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณหน้าผู้ต้องสงสัย
กระทั่งช่วงบ่ายของวันเดียวกัน พบผู้ต้องสงสัยยกถุงพลาสติกสีฟ้าออกจากบ้าน นำมาใส่ที่เบาะนั่งท้ายรถแท็กซี่ ก่อนขับออกจากบ้านพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สะกดรอยติดตามจนไปจอดรถที่บริเวณลานจอดรถวัดราษฎร์บำรุง ซ.เพชรเกษม 69 แขวงหลักสอง เขตบางแคกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวขอตรวจค้น พบไอซ์ 10 กิโลกรัม และยาอี จำนวน 4 เม็ด ก่อนคุมตัว 2 ผู้ต้องหาไปตรวจค้นบ้านพัก พบไอซ์อีก ๓ กิโลกรัม, กระสุนปืน ขนาด .45 มม. 19 นัด และ ขนาด 9 มม. 7 นัด
คดีที่ 2 จากการสนธิกำลังร่วมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2, กก.3 บก.ปส.4, และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ขส. สามารถจับ 4 ผู้ต้องหา คือ 1. นายอินจันทร์ ใจมูลมั่ง อายุ 63 ปี, 2. นางณิชา คำมูล อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดพะเยา 3. นายแวเลาะ กุเวกามา อายุ 58 ปี และ 4. นายอาซือมิง มามะ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดนราธิวาส ได้เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 13 พฤศจิกายน ต่อเนื่องถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา บริเวณด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ถ.เพชรเกษม ม.2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร ต่อเนื่องบ้านหอมกรุ่น รีสอร์ท หมู่ที่ 3 ต.ลำภู ต่อเนื่อง ต.จวบ และ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
หลังทำการขยายผลการจับกุมจากผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดขณะลำเลียงยาเสพติดลงพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 ตรวจยึดยาบ้ารวม 300,460 เม็ด, กระสุนปืนจำนวน 12 นัด และรถของกลาง 3 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ดำเนินการตรวจยึด ทั้งสิ้นประมาณ 6,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่จะดำเนินการขยายผลของจับกุมเครือข่ายนี้ต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า,เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบโดยไม่ได้รับอนุญาต