KEY :
- นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยืนยันการดำเนินการควบคุมการใช้ช่อดอกกัญชา เป็นตามขั้นตอนทางกฎหมาย เพื่อลดความวิตกกังวลในสังคม
- ส่วนพรรคร่วมที่ระบุจะเอากัญชากลับมาเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ว่า เป็นเรื่องที่ย้อนแย้ง เพราะพรรคภูมิใจไทยหาเสียงเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ก็ยอมรับนโยบายของพรรคร่วมทุกอย่าง
…
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการประกาศของกระทรวงสาธารสุขให้กัญชา เป็นสมุนไพรควบคุมในส่วนของ “ช่อดอกกัญชา ว่า เป็นประกาศของกระทรวงสาธารณสุขที่มีการลงนาม ตามมติของคณะกรรมการส่งเสริมและควบคุมพืชสมุนไพร ซึ่งตามกฎหมายแล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจะต้องเป็นผู้ลงนามยืนยันว่าตัวเองทำตาม หน้าที่และเมื่อลงนามแล้วจะต้องสร้างความชัดเจนว่าเราจะควบคุมการใช้กัญชาอย่างไร เพื่อให้ลดความวิตกกังวลของสังคม ซึ่งตามขั้นตอนแล้ว เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามในประกาศ จะต้องส่งมายัง สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อประกาศลงราชกิจจานุเบกษา และตนยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการสอบถาม เกี่ยวกับความชัดเจน นายอนุทินกล่าวว่า อาจเป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากการประกาศกระทรวงต่างๆ เป็นอำนาจของ รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้ามาขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หากคณะรัฐมนตรีมีประเด็นข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ ซึ่งยินดีตอบแต่ไม่ใช่ต้องเข้าครม. ถึงจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
โดยนายอนุทิน ยังระบุอีกว่า หากตนไม่ติดภารกิจอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นทุกอย่างก็คงเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมยังย้ำว่า หากนายกรัฐมนตรีอีกข้อสงสัย ตนก็พร้อมที่จะรายงานอยู่แล้ว ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนั้น นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข คงไม่ได้ดูรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ชี้แจงนายสาธิตอาจไม่สะดวกในการชี้แจง ส่วนอธิบดีกรมแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ก็ถูกเรียกตัวมาด่วนโดยไม่มีการเตรียมตัวมาล่วงหน้า ยอมรับว่าตนลืมไปนิดนึง ว่าเป็นเรื่องของรัฐมนตรี คือตัวผม หากจะรอสักนิดนึง ตนก็จะสามารถชี้แจงในทุกประเด็นได้
พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้เป็นการใช้พ.ร.บ.มาควบคุม ตามที่สังคมเป็นห่วงการเข้าถึงของเยาวชนก่อนที่จะย้ำว่าประกาศดังกล่าวจะทำให้เยาวชนไม่สามารถเข้าถึงอย่างแน่นอน ห้ามขายแก่นักเรียนนักศึกษา ส่วนเหตุผลที่ไม่มีการระบุชัดเจนว่าห้ามขายในสถานศึกษาเนื่องจากสถานศึกษาบางแห่งก็มีการเรียนการสอน เช่นคณะแพทยศาสตร์ ที่อาจจะต้องนำมาวิจัย และใช้ทดลอง เดี๋ยวก็จะต้องกลับมานั่งแก้ตีความขึ้นมาอีกมากมาย พร้อมย้ำว่าการที่ห้ามขายนักเรียน นักศึกษา ไม่ใช่แค่กำหนดอายุต่ำกว่า 20 ปีแล้ว เป็นเด็กโข่ง ก็ซื้อกัญชาไม่ได้ ถ้ามีสภาพเป็นนักเรียนนักศึกษาก็ไม่สามารถซื้อกัญชาได้ พร้อมกับย้ำว่าการเอาประกาศดังกล่าวค่อนข้างมีความละเอียด แต่จะให้ดีที่สุดคือต้องออกเป็นกฎหมาย
โดยนายอนุทิน ยังระบุอีกว่า ส่วนข้อกังวลของพรรคร่วมรัฐบาล แต่พอบอกว่าจะออกกฎหมายก็ไม่เอา จะเอากัญชากลับเป็นยาเสพติด ตนบอกว่าเป็นคนละเรื่อง และบอกว่าเรื่องดังกล่าวค่อนข้างที่จะย้อนแย้งกับนโยบายของรัฐบาล จะมาบอกว่าไม่รู้เรื่องก็ไม่ได้เพราะตอนเข้ามาร่วมรัฐบาล ภูมิใจไทยหาเสียงเรื่องกัญชามาตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้งแล้ว ตอนฟอร์มรัฐบาล ทุกครั้งก็ยอมรับนโยบายของพรรคร่วม เราก็ยอมรับนโยบายทางการเกษตร หรือแม้กระทั่งโครงการคนละครึ่ง เมื่อถามถึงมารยาทพรรคภูมิใจไทยก็ยกมือสนับสนุน เวลามีมติต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมติไม่ไว้วางใจภูมิใจไทยก็ยกมือสนับสนุน กับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและรัฐมนตรี ที่โดนอภิปรายทุกคน แม้กระทั่งบางคนที่รัฐมนตรีดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค ลูกพรรคยังไม่สนับสนุนเลย แต่เรากลับสนับสนุนทุกคน
เมื่อถามว่าจะต้องมีการพูดคุยกับทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)หรือไม่ เพราะกัญชาอาจจะกลับไปเป็นยาเสพติด นายอนุทิน ระบุว่า คุยกันไม่ได้เพราะกัญชาไม่ได้ยาเสพติดแล้ว โดย ป.ป.ส. เป็นผู้ออกมติให้กัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 และเมื่อมีการออกเป็นประกาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็จะต้องลงนาม เช่นเดียวกับการใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ในการควบคุมช่อดอกกัญชา ดังนั้นเมื่อกัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติด มันก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับ ป.ป.ส. ซึ่งหากจะให้กลับมาเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ก็จะต้องเริ่มกระบวนการใหม่ ตั้งแต่คณะกรรมการควบคุมการใช้ยาเสพติด ของกระทรวงสาธารณสุข
ดังนั้นต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด สนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อความมีเสถียรภาพของรัฐบาล ต้องรู้จักการอยู่ด้วยกัน เพื่อสร้างสรรค์และความเป็นปึกแผ่น ประเทศของเราก็จะเดินหน้าต่อไปได้ หากมีความสามัคคีกัน รัฐบาลก็มีความเข้มแข็ง ความเชื่อมั่น ของนักลงทุนและภาคส่วนต่างๆก็จะเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นความโชคดีที่พรรคภูมิใจไทยได้ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด ซึ่งตนเองยึดถือมากๆ ในเรื่องกติกาการอยู่ร่วมกัน
ส่วนหลังการประชุมเอเปคแล้วเสร็จ จะสามารถนำขึ้นมาพิจารณาในสภาฯได้หรือไม่ นายอนุทินย้ำว่ากฎหมายอยู่ในสภาฯอยู่แล้ว “จะบอกว่าพรรคภูมิใจไทยไม่รอบคอบ หรือกระทรวงสาธารณสุขไม่รอบคอบนั้นไม่ใช่เลย เรามีระยะเวลา หากอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันด้วยความเข้าใจ กฎหมายบางทีก็เสร็จแล้ว จะผ่านขั้นตอนไปสู่วุฒิสภาแล้ว พร้อมย้ำว่าไม่รอบคอบอยู่อย่างเดียว นึกไม่ถึงว่าพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง จะมาขวางกันเอง อันนี้คือสิ่งที่ไม่รอบคอบของผม”
ส่วนจะแล้วเสร็จทันการเลือกตั้งในครั้งหน้าหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะหากเสร็จไม่ทันก็จะนำไปหาเสียง และนำมาบอกกับประชาชนว่าเราถูกขวางอย่างไร และขอให้พี่น้องประชาชนสนับสนุน เพราะเรามาถึงเกือบจะเห็นเส้นชัยอยู่แล้ว พร้อมย้ำว่าอย่างไรก็หยุดไม่ได้หรอก นโยบายใครนโยบายมัน ถ้าจะมาอยู่ร่วมกันก็ต้องสนับสนุน เพราะไม่ใช่นโยบายที่ผิดกฎหมาย และยังไม่เห็นอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างที่พูดเลย ไม่เอากัญชา แต่เอาเหล้าก้าวหน้า ก่อนที่จะหัวเราะออกมา