KEY :
- เจ้าหน้าที่จาก ปคบ. และอย. ร่วมกับลงพื้นที่กวาดล้างเครือข่ายร้านขายยาจำหน่ายยาแก้ไอให้เด็ก นำไปผสม 4×100 ได้ผู้ต้องหา 20 คน
- โดยลงตรวจร้านขายยาแก้ไอให้เด็ก 19 จุด พบเป็นพนักงานร้าน ไม่ใช่เภสัชกร
- หลังพบว่า มีการทำงานเป็นเครือข่าย เปิดร้านขายยา และสั่งซื้อยาแก้ไอจำนวนมาก เพื่อมุ่งเน้นขายให้กับเด็กนำไปผสมเป็น 4×100
…
วันนี้ 28 ตุลาคม 2565 ที่ อาคาร ประชาพิทักษ์ บช.ก. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กวาดล้างเครือข่ายร้านยา รวบผู้ต้องหา 20 คน หลังไม่ใช่เภสัชกร แต่ขายยาแก้ไอให้กับเด็ก นำไปผสมสารเสพติดชนิด 4X100 ผงะพบคนขายบางคนจบเพียงชั้นประถมศึกษา พร้อมยึดของกลางได้กว่า 2.4 ล้านบาท
ยึดของกลางได้หลายรายการ เช่น ยาแก้ไอ ยาน้ำแก้ไอ ยาแก้แพ้ และยาแคปซูลเขียวเหลือง กว่า 35 รายงาน มูลค่ากว่า 2,400,000 บาท เป็นของกลางที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ยึดมาได้จากปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายร้านขายยาแก้ไอให้เด็ก 19 จุด พร้อมจับกุมเครือข่ายร้านยา 3 เครือข่าย รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 20 คน หลังใช้พนักงานขายยา ที่ไม่ใช่เภสัชกร ขายยาเหล่านี้ให้กับเด็ก เพื่อนำไปผสมยาเสพติดชนิด 4X100
ซึ่งร้านขายยา 3 เครือข่าย แบ่งเป็น เครือข่ายร้านขายยานายธนกฤต เครือข่ายร้านขายยานายธนเทพ และ เครือข่ายร้านขายยานายคมพิษฐ์ ซึ่งทั้งหมดมีพฤติการณ์การกระทำความผิด โดยขออนุญาตเปิดร้านขายยาหลายแห่ง เพื่อจะได้รับโควต้า ในการซื้อยาแก้แพ้ แก้ไอ ในปริมาณมาก และมุ่งเน้นขายในกลุ่มเด็ก ซึ่งขายมากกว่า 3 ขวดต่อครั้ง ปริมาณเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากยาน้ำแก้ไอ มีส่วนประกอบของไดเฟนไฮดรามีน โปรเมทาซีน และเดกซ์โตรเมธอร์แฟน จึงต้องจำกัดปริมาณการขายจากผู้ผลิตไปร้านยาไม่เกิน 300 ขวดต่อเดือน และจำกัดขายให้ประชาชนไม่เกินครั้งละไม่เกิน 3 ขวด เพื่อป้องกันไม่ให้นำยาไปใช้ในทางที่ผิด
โดยจากการสอบสวนพบว่า ส่วนใหญ่ลูกค้าวัยรุ่นมักซื้อไปผสมกับสารเสพติดชนิด 4×100 ทำให้เกิดความมึนเมา ง่วงซึม ขณะเดียวกันที่น่าตกใจคือ ผู้ขายที่ไม่ใช่เภสัชกร บางคนไม่ได้เรียนจบเภสัชศาสตร์ เรียนจบเพียงชั้นประถมศึกษาเท่านั้น
เบื้องต้นได้ดำเนินคดีผู้ต้องหาจำนวน 2 คน ในข้อหาร่วมกันขายยาปลอม และร่วมกันย้ายสถานที่เก็บยาโยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนที่เหลือ 18 คน ดำเนินคดีข้อหาประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมฯ โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาต