KEY :
- สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มภาคกลาง ยังคงอยู่ในระดับที่สูง
- โดยพื้นที่บริเวณวัดตะกู อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำยังคงท่วมสูง 2.5 -3.0 เมตร เป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว
- ชาวบ้านรายหนึ่งเล่าว่า ในขณะนี้ที่บ้านยังคงต้องเก็บร่างของย่าไว้นานกว่า 1 เดือนแล้ว เนื่องจากเมรุของวัดตะกูและวัดข้างเคียงถูกน้ำท่วมสูง ไม่สามารถทำพิธีได้
…
สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ทยอยการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อน ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนลดลงเล็กน้อย น้ำยังคงท่วมสูงในหลายพื้นที่ โดยพบว่าที่ชุมชน ต.วัดตะกู อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำยังท่วมสูง 2.50 -3 เมตร ชาวบ้านยังต้องใช้ชีวิตประจำวันอย่างยากลำบากมาเป็นเวลา 3เดือนเนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่ม
ด้านนายสุเทพ ทรัพย์มาก อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ใน ม.6 ต.วัดตะกู อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา อาศัยอยู่ตรงข้ามกับวัดตะกู พาผู้สื่อข่าวสำรวจพื้นที่พบว่าน้ำในคลองบางหลวง ซึ่งรับน้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา ยังไหลเชี่ยวแรง สภาพบ้านของนาย สุเทพ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร ท่วมถึงพื้นบ้าน ต้องหนุนพื้นบ้านเพื่อเก็บข้าวของและพักอาศัย
โดยทางครอบครัวและญาติยังต้องเก็บรักษา ร่างของนาง ทองหยิบ ทรัพย์มาก อายุ 81 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคชราลงเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565 บรรจุใส่โลงศพเอาไว้ ซึ่งหลังการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพที่บ้าน เป็นช่วงที่น้ำในคลองบางหลวงล้มตลิ่งเข้าท่วมในชุมชนและวัดตะกู และต้องเก็บศพไว้ในบ้านไม่สามารถนำไปประกอบพิธีฌาปนกิจ เนื่องจากเมรุของวัดตะกูและวัดข้างเคียงถูกน้ำท่วมสูง
นาย สุเทพ กล่าวว่า บ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร น้ำท่วมมาถึงพื้นบ้านต้องหนุนพื้นหนีน้ำ อาศัยพักหลับนอนรวมด้วยกันทั้งหมด 3 คน โดยตั้งโลงศพคุณแม่ไว้ชิดติดกับเรือนด้านใน ส่วนตนเองกับลูกและหลานจะนอนด้านนอก นอนกับคุณแม่ที่นอนอยู่ในโลงอย่างอบอุ่นทุกคนไม่รู้สึกกลัว บางวันลูกสาวอยู่บ้านคนเดียวก็อยู่ได้ไม่กลัวแต่อย่างไร
ด้านลูกสาว นาย สุเทพ กล่าวว่าฝากถึงกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง น้ำท่วมสูงขนาดนี้ อย่าบอกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เป็นการท่วมซ้ำซากทุกปีแบบนี้ขอฝากไปถึงผู้บริหารจัดการน้ำน่าจะมีแนวหรือวิธีคิดไม่ให้น้ำมาท่วมบ้านเรือนประชาชนเดือดร้อนผิดธรรมชาติแบบนี้