วันนี้ 11 ต.ค.65 เวลา 10.30 น. ปภ.รายงานผลกระทบจากฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ยังมีพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง รวม 27 จังหวัด 135 อำเภอ 714 ตำบล 4,380 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 156,240 ครัวเรือน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางบางจังหวัดมีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น ประสานจังหวัดดูแลผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องและระดมกำลังเร่งระบายน้ำอย่างเต็มกำลัง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานผลกระทบจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย รวมถึงพายุโนรู ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับมีการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำสายหลัก และลำน้ำสาขา ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง โดยช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 11 ต.ค. 65 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่รวม 54 จังหวัด 262 อำเภอ 1,237 ตำบล 7,1344 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 240,066 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ รวม 27 จังหวัด ได้แก่ ตาก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ลพบุรี นครปฐม นครนายก ปราจีนบุรี เพชรบุรี และราชบุรี รวม 135 อำเภอ 714 ตำบล 4,380 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 156,240 ครัวเรือน ดังนี้
- ตาก น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามเงา อำเภอบ้านตาก และอำเภอเมืองตาก รวม 5 ตำบล 35 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,439 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- เพชรบูรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีเทพ และอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ รวม 17 ตำบล 66 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,120 ครัวเรือน เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำลดลง
- พิจิตร น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม อำเภอวชิรบารมี อำเภอทับคล้อ อำเภอบึงนาราง อำเภอบางมูลนาก อำเภอเมืองพิจิตร อำเภอตะพานหิน อำเภอโพทะเล และอำเภอโพธิ์ประทับช้าง รวม 56 ตำบล 330 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,416 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- นครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอท่าตะโก อำเภอโกรกพระ อำเภอตาคลี และอำเภอชุมแสง รวม 36 ตำบล 328 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,699 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- ชัยภูมิ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอจัตุรัส และอำเภอภูเขียว รวม 12 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 898 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอชนบท อำเภอน้ำพอง อำเภอโคกโพธิ์ชัย อำเภอบ้านไผ่ และอำเภอแวงใหญ่ รวม 13 ตำบล 48 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 120 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- มหาสารคาม น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม อำเภอกันทรวิชัย อำเภอโกสุมพิสัย และอำเภอเชียงยืน รวม 43 ตำบล 494 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,796 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- กาฬสินธุ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสหัสขันธ์ อำเภอหนองกุงศรี อำเภอท่าคันโท อำเภอยางตลาด และอำเภอฆ้องชัย รวม 8 ตำบล 11 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 60 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- ร้อยเอ็ด น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโพนทราย และอำเภอจังหาร รวม 6 ตำบล 38 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,369 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- ยโสธร น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอค้อวัง อำเภอคำเขื่อนแก้ว และอำเภอเมืองยโสธร รวม 3 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอสูงเนิน และอำเภอชุมพวง รวม 11 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,195 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- บุรีรัมย์ น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพุทไธสง อำเภอสตึก อำเภอนางรอง อำเภอปะคำ อำเภอกระสัง อำเภอคูเมือง อำเภอลำปลายมาศ อำเภอแดนดง รวม 55 ตำบล 350 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,274 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- สุรินทร์ น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอท่าตูม อำเภอรัตนบุรี อำเภอสำโรงทาบ อำเภอเมืองสุรินทร์ และอำเภอจอมพระ รวม 32 ตำบล 240 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 22,179 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- ศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอห้วยทับทัน อำเภอยางชุมน้อย อำเภอวังหิน อำเภอภูสิงห์ อำเภอน้ำเกลี้ยง อำเภออุทุมพรพิสัย และอำเภอราศีไศล รวม 17 ตำบล 47 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,301 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอเดชอุดม อำเภอดอนมดแดง อำเภอสำโรง อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอเขื่องใน และอำเภอตระการพืชผล รวม 28 ตำบล 135 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,076 ครัวเรือน อพยพประชาชน 143 ชุมชน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 86 จุด ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- อุทัยธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุทัยธานี อำเภอสว่างอารมณ์ อำเภอทัพทัน อำเภอห้วยคต อำเภอบ้านไร่ อำเภอหนองขาหย่าง อำเภอลานสัก และอำเภอหนองฉาง รวม 55 ตำบล 466 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,575 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- ชัยนาท น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ อำเภอมโนรมย์ อำเภอสรรพยา อำเภอหนองมะโมง และอำเภอหันคา รวม 30 ตำบล 145 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,292 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- สิงห์บุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภอพรหมบุรี และอำเภอท่าช้าง รวม 12 ตำบล 58 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,033 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย อำเภอเมืองอ่างทอง และอำเภอโพธิ์ทอง รวม 34 ตำบล 132 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,426 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอพระนครศรีอยุธยา รวม 92 ตำบล 590 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 33,018 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- ปทุมธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 64 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,926 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- ลพบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอชัยบาดาล อำเภอบ้านหมี่ อำเภอพัฒนานิคม อำเภอท่าหลวง และอำเภอโคกสำโรง รวม 30 ตำบล 113 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,673 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
- นครปฐม น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนครชัยศรี อำเภอบางเลน อำเภอสามพราน อำเภอเมืองนครปฐม อำเภอกำแพงแสน อำเภอดอนตูม อำเภอพุทธมณฑล รวม 37 ตำบล 224 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,976 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
- นครนายก น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา และอำเภอองครักษ์ รวม 19 ตำบล 154 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,157 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอศรีมหาโพธิ์ อำเภอบ้านสร้าง และอำเภอศรีมโหสถ และรวม 39 ตำบล 250 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,210 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในวันที่ 9 ต.ค. 65 ทำให้มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 2 จังหวัด รวม 3 อำเภอ 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน ได้แก่
26.เพชรบุรี เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ มีน้ำท่วมผิวการจราจรบนถนนเพชรเกษม บริเวณชุมชนเจ้าพ่อเขาใหญ่ ระดับน้ำลดลง
- ราชบุรี เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ตำบลวังเย็น และตำลบางแพ อำเภอบางแพ อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย
สำหรับการให้ความช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”