KEY :
- ชายชาวอิสราเอลเข้ารองขอความเป็นธรรมกับายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ
- หลังภรรยาชาวไทยมีชู้กับทหาร พร้อมมีการใช้ปืนยิงข่มขู่ด้วย ทำให้กลัวไม่ปลอดภัย
- ผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว แต่ล่ามกลับหลอกให้เซ็นไม่เอาเรื่อง ทำให้คดีไม่คืบหน้า
…
วันนี้ (6 ต.ค.65) ที่สำนักงาน Sittra Law Firm Mr. Rudy Bahar (รูดี้ บาฮาร์) ชาวอิสราเอล ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรม ต่อนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ กรณีภรรยาชาวไทยมีชู้เป็นทหารที่มีอิทธิพล โดยได้มีการถูกข่มขู่ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทาง Mr. Rudy Bahar (รูดี้ บาฮาร์) อายุ 53 ปี พร้อมลูกได้ไปแจ้งความแล้ว แต่ปรากฎว่าล่ามที่แปลภาษาซึ่งรู้จักกับทหารคนดังกล่าว ได้หลอกให้เซ็นเอกสารว่าจะไม่ติดใจเอาความ ซึ่งตำรวจเองก็รู้การกระทำความผิด แต่ไม่ได้มีการดำเนินคดีใดๆ
ซึ่งเรื่องนี้ ทนายตั้ม เปิดเผยว่า รูดี้มีภรรยาเป็นคนไทย มีลูก 5 คน อยู่เมืองไทยมานานแล้ว เดิมอาศัยอยู่ที่พัทยา แต่ทางภรรยาอยากเปิดร้านกาแฟคาเฟ่ รูดี้จึงไปเปิดกิจการร้านให้ที่สกลนคร แต่ภรรยาไปมีชู้เป็นทหารคนหนึ่ง และถูกทหารคนดังกล่าวเข้ามาหาเรื่อง มีการเอาปืนมาไล่ยิง มีการข่มขู่ ซึ่งรูดี้ก็ได้มีการแจ้งความไปแล้ว แต่ล่ามกลับบอกว่ารูดี้ไม่เอาเรื่องเอาความ ซึ่งรูดี้ไม่รู้เรื่องภาษาไทยจึงไม่ได้มีการดำเนินคดีอะไร จึงมาร้องเรียนกับตน ซึ่งตนเชื่อว่าจะสามารถรื้อคดีได้อย่างแน่นอน เพราะมีข้อหาบุกรุกในยามวิกาล และพยายามฆ่า รวมถึงเจ้ากน้าที่ตำรวจก็มีการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ ลูกสาวมิสเตอร์รูดี้ เล่าให้ฟังว่าเรื่องที่แม่มีคนอื่น ทางพ่อรู้มาตั้งแต่แรกแล้ว และได้มีการบอกให้แม่ยุติและเลิกทำพฤติกรรมแบบนี้ แต่แม่ไม่หยุด ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นมาแล้วกว่า 3 ปี จนเกิดเรื่องวันที่มีการยิงเกิดขึ้น มีการข่มขู่ให้ตายด้วย แต่กระสุนไม่โดนรูดี้ ไปโดนตนไม่แทน จนถึงขั้นรูดี้ต้องไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีว่ามีการยิงกันเกิดขึ้น แต่ล่ามที่ตอนไปแจ้งความกลับแปลว่า รูดี้ไม่ติดใจเอาความ
ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องและมีการแจ้งความแล้ว พฤติกรรมของแม่ก็ยังเป็นแบบเดิมว่ายังคงคุยหรือไปไหนกับทหารคนดังกล่าวอยู่ ทั้งที่ทหารครดังกล่าวก็มีภรรยาและลูกอยู่แล้ว อีกทั้งแม่ยังมีการโอนเงินไปให้ทหารคนดังกล่าวด้วย
โดยตนยอมรับว่า โกรธแม่ และน้อยใจที่แม่ทำพฤติกรรมแบบนี้ ซึ่งตอนนี้ตนกับพ่อก็ย้ายกลับมาอยู่ที่พัทยาแล้ว ส่วนร้านกาแฟคาเฟ่ก็ยังเปิดอยู่โดยแม่ก็ดูแลร้าน ซึ่งทางลูกสาวเชื่อว่าทหารคนดังกล่าวมาหลอกเอาเงินจากแม่ และแจ้งความในพื้นที่แล้วก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงตัดสินใจเข้ามาร้องเรียนกับทนายตั้ม เนื่องจากกังวลความปลอดภัยของพ่อเป็นอย่างมาก
ขณะที่ พนักงานร้านคาเฟ่ที่เป็นลูกน้อง เล่าให้ฟังว่าตอนแรกทหารคนดังกล่าวมาทำถนน จึงได้มาเจอกับภรรยาของรูดี้ และได้มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวนี้เกิดขึ้น ซึ่งทหารคนดังกล่าวเข้ามาที่ร้านกาแฟคาเฟ่ทุกวัน คือทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของร้าน บงการทุกอย่าง ซึ่งตนเห็นพฤติกรรมเชิงชู้สาวบ่อยมาก
ภาพ – ธนโชติ ธนวิกรานต์