คัดลอก URL แล้ว
ปชช.มอง”ทักษิณ”จบเตรียมทหาร แต่ดูแคลนอาชีพทหารและยาม ชี้คนยังชื่นชม”บิ๊กตู่”มีจุดเด่นขจัดปมขัดแย้งคนในชาติ

ปชช.มอง”ทักษิณ”จบเตรียมทหาร แต่ดูแคลนอาชีพทหารและยาม ชี้คนยังชื่นชม”บิ๊กตู่”มีจุดเด่นขจัดปมขัดแย้งคนในชาติ

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยถึงผลสำรวจเรื่อง “หัวหน้ายามกับจุดเด่นนักการเมือง” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนจากผู้ถามผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 1,952 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 21 – 24 กันยายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยเมื่อถามประชาชนถึงการรับรู้อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ เคยเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร หรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.4 รับรู้และทราบมาก่อนว่า อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณเคยเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ในขณะที่ ร้อยละ 18.6 ไม่ทราบมาก่อน และเมื่อถามถึงกรณีข่าวอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ออกมาว่าทหารเป็นเหมือนหัวหน้ายาม เป็นการดูถูกดูแคลน ทหารและอาชีพ ยามหรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.2 ระบุว่าเป็น ในขณะที่ร้อยละ 12.8 ระบุว่า ไม่เป็น ที่น่าสนใจคือส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.4 ระบุ ทหาร และประชาชนทุกอาชีพ ส่วนใหญ่ช่วยกันทำคุณประโยชน์ต่อชาติ สถาบันหลัก และประชาชน ทั้งในยามทุกข์ยาก ภัยพิบัติ ความขัดแย้งของคนในชาติ และพัฒนาต่อยอดยามสงบสุข ในขณะที่ ร้อยละ 7.6 ระบุ ไม่ใช่

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึงจุดเด่นนักการเมืองในช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีจุดเด่น แก้ปัญหาขัดแย้งของคนในชาติ ร้อยละ 35.3 แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน ช่วงวิกฤต ร้อยละ 37.5 และแก้ปัญหาวิกฤตโควิด ร้อยละ 24.1 ในขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล มีจุดเด่นแก้ปัญหาวิกฤตโควิด ร้อยละ 25.6 แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน ช่วงวิกฤต ร้อยละ 8.1 และแก้ปัญหาขัดแย้งของคนในชาติ ร้อยละ 7.4 ในขณะที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มีจุดเด่น แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน ช่วงวิกฤต ร้อยละ 9.4 แก้ปัญหาวิกฤตโควิด ร้อยละ 5.1 และ แก้ปัญหาขัดแย้งของคนในชาติ ร้อยละ 5.0
นอกจากนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มีจุดเด่น แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน ช่วงวิกฤต ร้อยละ 7.5 แก้ปัญหาขัดแย้งของคนในชาติ ร้อยละ 6.6 และแก้ปัญหาวิกฤตโควิด ร้อยละ 5.4 ในขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีจุดเด่น แก้ปัญหาขัดแย้งของคนในชาติ ร้อยละ 7.4 แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน ช่วงวิกฤต ร้อยละ 4.8 และแก้ปัญหาวิกฤตโควิด ร้อยละ 3.5

ผศ.ดร.นพดล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้เป็นการสะท้อนเสียงของประชาชนต่อ กรณีข่าวอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ออกมาระบุว่าทหารเหมือนหัวหน้ายามและนำจุดเด่นของนักการเมืองในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาสอบถามประชาชนในสามมิติคือ แก้ปัญหาขัดแย้งของคนในชาติ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชนช่วงวิกฤต และแก้ปัญหาวิกฤตโควิด และค้นพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่รับรู้ว่า อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตรเคยเรียนโรงเรียนเตรียมทหารมาก่อน และมองว่าการเปรียบเทียบทหารเหมือนหัวหน้ายามเป็นการดูถูกดูแคลนทหารและอาชีพยาม ที่ประชาชนทุกอาชีพส่วนใหญ่ต่างทำคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง สถาบันหลัก และประชาชนทั้งในยามทุกข์ยาก วิกฤตต่าง ๆ ของประเทศและประชาชน และช่วงเวลาแห่งการพัฒนาต่อยอดยามบ้านเมืองสงบสุข

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า จุดเด่นของนักการเมืองที่ถูกศึกษาในสามมิติ ได้แก่ การแก้ปัญหาขัดแย้งของคนในชาติให้บ้านเมืองสงบสุขไม่สูญเสียเหมือนดังเช่นในอดีตที่มีการเผาบ้านเผาเมือง ประชาชนล้มตายจำนวนมาก แต่ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายเช่นนั้น จึงทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของการแก้ปัญหาขัดแย้งของคนในชาติ ส่วนคนอื่น ๆ เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล มีจุดเด่นแก้ปัญหาวิกฤตโควิด และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มีจุดเด่นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน มาเป็นอันดับต้น ๆ ของแต่ละคนแตกต่างกันไป ถ้าทุกฝ่ายพิจารณานำจุดเด่นจุดดีของแต่ละคนที่ยังมีคนอื่น ๆ อีกมากในประเทศขึ้นมาปกครองดูแลบ้านเมืองและประชาชน ผลที่ตามมาคือ ประเทศชาติและประชาชนจะหลุดพ้นได้จากวงจรอุบาทว์ที่อาจจะเกิดขึ้นเพราะยากเกินจะคาดเดา ถ้าต่างคนต่างโจมตี ใส่ร้ายป้ายสี ดูถูกดูแคลนกัน ห้ำหั่นกันไม่จบสิ้น.