[FOLLOW UP] ทุกข์คนกรุงฝนตกน้ำท่วม! ‘ชัชชาติ’ รับคืน 6 กันยา ก.ท.ม. ยังบกพร่องหลายจุด

สถานการณ์ฝนตกหนักใน กทม. ช่วง 6-9 ก.ย. 2565 ทำให้หลายพื้นที่จุดเสี่ยงได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากปัญหา “น้ำท่วมขัง” โดยเฉพาะเขตบางเขน เขตลาดพร้าว เขตดอนเมือง เขตจตุจักร ประสบปัญหาน้ำท่วมในถนนสายหลัก ได้แก่ ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรามอินทรา วงเวียนบางเขน แม้ กทม. จะเร่งระบายน้ำลงในพื้นที่ อาทิ คลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองเปรมประชากร แต่ฝนที่ตกลงมามากกว่า มากกว่า 170 มม. ทำให้ไม่สามารถระบายได้ทัน

…

กทม. อ่วม ฝนตกหนักในรอบ 20 ปี น้ำเขตเหนือล้นระบายคลองไม่ทัน

สำหรับสถานการณ์ฝนตกหนักช่วงเย็นวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักในหลายพื้นที่ข้างต้นนั้น วานนี้ (7 ก.ย. 2565) ‘นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ กทม. โซนเหนือ โดยเฉพาะเขตบางเขน มีประมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดถึง 178 มม. ถือว่าเป็นฝนที่ตกหนักในรอบ 20 ปี ทำให้น้ำในคลองเพิ่มขึ้น ตั้งแต่คลองลาดพร้าวไปจนถึงคลองเปรมประชากร มีระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้การระบายน้ำพื้นที่ต่างๆ ทำได้ยาก

โดยจุดที่น้ำท่วมหลักคือบริเวณวงเวียนบางเขน ซึ่งเป็นจุดที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่ด้วย ทำให้ทางเดินเท้าของประชาชนเดินได้ลำบาก ขณะเดียวกันทางด้านเหนือมีน้ำล้นในจังหวัดปทุมธานี ทำให้การระบายน้ำทางรังสิตเป็นไปค่อนข้างช้า แต่สิ่งที่น่าห่วงคือทางกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า ฝนจะเข้ามาอีกลูกหนึ่ง ช่วงเวลา 15.00 น. และตั้งแต่เวลา 18.00-03.00 น. จึงต้องรอดูว่าฝนที่เข้ามาว่าเข้าเขตพื้นที่ใด โดยจะทราบได้ก่อน 3 ชั่วโมง จากเวลาที่พยากรณ์ไว้

‘ชัชชาติ’ รับน้ำท่วม 6 กันยา กทม. ขาดการประสานงานที่ดีพอ

“ต้องยอมรับว่าวันที่ 6 ก.ย. มีข้อบกพร่องหลายจุดที่ต้องปรับปรุง เรื่องการจัดการในพื้นที่ เช่น วงเวียนบางเขน ควรให้รถเข้ามาน้อยที่สุด รวมทั้งการสื่อสารให้ประชาชนรับรู้ เรื่องการใช้เส้นทาง และการช่วยเหลือรถที่ติดขัด เมื่อถึงเวลาฝนตกหนัก รถที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้เพราะรถติดมาก รวมถึงรถเครื่องกล รถเครื่องมือต่างๆ และรถทหาร ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เป็นเรื่องที่ยังไม่มีการประสานงานที่ดีพอ”

ทั้งนี้ ช่วงค่ำ ‘พญ.วันทนีย์ วัฒนะ’ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่น้ำท่วมขังเขตหลักสี่ และสถานีสูบน้ำคลองลาดโตนด พร้อมทั้งได้สั่งการสำนักการระบายน้ำ ช่วยเปิดประตูระบายน้ำเพื่อเร่งผลักดันน้ำ ซึ่งเมื่อเวลา 22.30 น. พบว่า มี 3 จุดที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง ได้แก่

1. ซอยงามวงศ์วาน 47 แยก 42 North Park
2. ตลาดท่าทราย
3. หมู่บ้านการไฟฟ้า(ประชาชื่น 14)

โดยหากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติม จะกลับมาสู่สภาวะปกติภายในคืนนี้

เฝ้าระวัง! น้ำเหนือ – น้ำหนุน – น้ำฝน รวมตัวกันในแม่น้ำเจ้าพระยา

ด้าน ‘นายณรงค์ เรืองศรี’ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนประชาราษฎร์ สาย 1 ซอย 9 และท่าเรือเทเวศร์ รับสถานการณ์น้ำเหนือ น้ำหนุน และน้ำฝน ตามที่เขื่อนเจ้าพระยา กรมชลประทาน ปล่อยน้ำมา 1,464 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ได้ไหลผ่าน กทม. ในช่วงค่ำ ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุน เวลา 19.37 น. ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น

ขณะที่ ‘ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์’ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตอธิการบดี สจล. โพสต์เสนอแนวทางการแก้ปัญหาน้ำท่วม ระบุว่า ฝนจะตกหนักขึ้น น้ำท่วมจะมากขึ้น แม้ลอกคูคลอง ยังไงก็ระบายไม่ทัน เพราะเครื่องสูบน้ำต้องปั๊มน้ำท่วมส่งขึ้นแม่น้ำเจ้าพระยา หากน้ำเหนือ น้ำหนุนมา ยิ่งระบายไม่ได้ จึงต้องพักน้ำท่วมไว้ก่อนใน “แก้มลิงใต้ดิน” จะทำให้ถนนแห้ง แล้วค่อยสูบ ระบายหลังฝนหยุด จะแก้น้ำท่วมได้อย่างยั่งยืน

 ‘บิ๊กป้อม’ สั่งรับมือมวลน้ำเหนือและอีสาน แนวโน้มท่วมหนัก ช่วง ก.ย.-ต.ค.

สำหรับการรับมือมวลน้ำช่วง ก.ย.-ต.ค. นั้น ในการประชุม ครม. วันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งว่าในพื้นที่ภาคกลางและตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีฝนตกหนักและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสน้ำท่วมขัง ขอให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดูแล และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างทันท่วงที

โดยสั่งการให้มีการฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และเตรียมความพร้อมบริหารจัดการมวลน้ำที่มีจำนวนมาก โดยให้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติพิจารณาจัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า” ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยที่ จ.อุบลราชธานี โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มกำลัง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด