KEY :
- ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด พากลุ่มผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อกองบัญชาการสอบสวนกลาง
- หลังถูกหลอกลวงให้ร่วมลงทุนในธุรกิจ และแชร์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่มีจริง
- โดยผู้หลอกลวงอ้างว่า เป็นลูกบุญธรรมอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
- ขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 100 ราย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
…
วันนี้ ( 11 สิงหาคม 2565 ) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พากลุ่มผู้เสียหายจำนวนหลายสิบคนที่ถูกบุคคลที่อ้างว่าเป็นลูกบุญธรรมอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฉ้อโกง หลอกให้ลงทุน เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
นายษิทรา กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้เป็นหญิงชื่อนางสาวรุ่ง อายุ 36 ปี โดยจะอ้างตัวว่าเป็นลูกสาวบุญธรรมของอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และชักชวนให้คนมาลงทุนในธุรกิจวงบะกุ๊ดเต๋ และลงทุนในแชร์ แต่ไม่มีการทำธุรกิจอยู่จริง ซึ่งในเฟ๊ซบุ๊กของผู้ก่อเหตุจะมักจะโพสต์ภาพถ่ายที่ตนถ่ายกับอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตลอดเวลาเพื่อแอบอ้างสร้างความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังมีทนายความมีส่วนร่วมในขบวนการนี้ด้วย โดยหลังจากนี้จะแจ้งความดำเนินคดี และจะให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนว่ามีใครร่วมในขบวนการนี้บ้าง
ทนายษิทรา บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้สอบถามไปยังอดีตรอง ผบ.ตร.คนดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นปฏิเสธว่าหญิงที่ก่อเหตุไม่ใช่ลูกบุญธรรม และอดีตรอง ผบ.ตร.รายนี้ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ แต่ยอมรับว่ารู้จักกันจริง และได้ให้นางสาวรุ่งมาพูดคุยกับตน ซึ่งนางสาวรุ่งได้โทรหาตนและได้เข้ามาหาที่สำนักงาน เพื่อขอชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมได้นำเอาของแบรนด์เนมมามอบให้กับตนในลักษณะการติดสินบน และขอให้อย่าแจ้งความดำเนินคดี แต่ตนไม่รับและให้กลับไป เพราะตนยืนยันว่าจะช่วยเหลือทำคดีให้กับผู้เสียหาย
เบื้องต้นจะแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีการโพสต์ข้อความเชิญชวนทางเฟซบุ๊ก ส่วนตัวไม่กังวลที่อีกฝ่ายเกี่ยวข้องอดีตรอง ผบ.ตร. เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายอยู่แล้ว
ด้านนางสาวออย (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า คำพูดเขิญชวนไม่ได้มีลักษณะหลอกลวง เพียงแต่มีการบอกว่าตัวเองเป็นลูกสาวบุญธรรมของอดีตนายตำรวจ อีกทั้งยังมีการให้ทนายความมากันรันตีความน่าเชื่อถือ จึงทำให้ตัวเองและผู้เสียหายคนอื่นหลงเชื่อ โดยลักษณะการลงทุนเป็นการลงทุนในธุรกิจผงบะกุ๊ดเต๋ และมีการแบ่งกำไร 15% ทุกเดือน นอกจากนี้ยังมีการหลอกเชิญชวนให้ร่วมลงทุนแชร์ จ่ายลักษณะรวบรัดทุก 2 วัน หลักหมื่นบาท ซึ่งตนเองเป็นคนเก็บเงินลักษณะการออมดอกเบี้ยอยู่แล้ว จึงหลงเชื่อร่วมลงทุนตั้งแต่ปี 2564 จนเริ่มผิดสังเกตุช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพราะเริ่มไม่ได้รับส่วนแบ่ง ซึ่งทางนางสาวรุ่งยังได้เคยกล่าวไว้ด้วยว่าจะไม่โกง เพราะไม่เอาชื่อเสียงมาแลกแน่นอน
สำหรับการลงทุนธุรกิจบะกุ๊ดเต๋ เป็นการลงทุนในลักษณะที่ยังไม่มีหน้าร้าน ไม่มีชื่อแบรนด์ มีเพียงตัวอย่างผลิตภัณฑ์ และโพสต์ความน่าเชื่อถือด้วยการถือสัญญาร่วมกับทนายความ ขณะนี้มีผู้เสียหายมากกว่า 100 ราย มูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาท เฉลี่ยรายละหลักแสนถึงหลักล้านบาท
…
ภาพ – วิชาญ โพธิ