คัดลอก URL แล้ว
บุกจับนายหน้าแก๊งคอลฯ เพิ่มอีก 2 ราย ขนคนไทยไปกัมพูชา สารภาพได้ค่าจ้างหัวละพัน

บุกจับนายหน้าแก๊งคอลฯ เพิ่มอีก 2 ราย ขนคนไทยไปกัมพูชา สารภาพได้ค่าจ้างหัวละพัน

KEY :

วันนี้ (29 ก.ค.65) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร) หรือ PCT เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 5 ร่วมกับ กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ “บูรพา491” ขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่งคนไทยไปทำงานในประเทศกัมพูชาได้อีก 2 ราย เผยเคยทำมาแล้วหลายครั้ง ได้ค่าจ้าง 1,000 บาทต่อหัว อาศัยบ้านตนเองเป็นที่พักเหยื่อก่อนพาข้ามแดนไปกัมพูชา

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาศัยประเทศเพื่อนบ้านเป็นฐานปฏิบัติการ โดยในวันนี้ (29 ก.ค.65) ได้สั่งการให้นำกำลังบุกจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย คือ

  1. น.ส.รุ่งฤดี อุดมดี อายุ 38 ปี
    ที่อยู่ 33 ม.11 ต.กาบิน อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ จ.415/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค. 65
  2. นายพงษ์ธนา พิมพา อายุ 36 ปี
    ที่อยู่ 114 ม.2 ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ จ.416/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค. 65

ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร , ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ , ร่วมกันโดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”

โดยจับกุม น.ส.รุ่งฤดี ฯ ได้ขณะกำลังขับรถกระบะ อีซูซุ ดีแมกซ์ ทะเบียน ผอ 3218 ชลบุรี ได้ที่บริเวณ ม.4 ถ.บายพาส ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้นได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ 125/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค. 65 เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 96 ม.1 ต.โนนหมากนุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านที่ น.ส.รุ่งฤดี อุดมดี เคยนำเหยื่อที่ถูกหลอกไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาพักไว้ก่อนข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติ ตรวจยึด รถยนต์กระบะคันดังกล่าว ซึ่งใช้เป็นรถในการกระทำความผิด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 7 เล่ม

ในชั้นจับกุม น.ส.รุ่งฤดีฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค. 65 เป็นต้นมา ได้เริ่มทำงานรับ-ส่ง ผู้ที่ต้องการเดินทางข้ามไปทำงานเป็นแอดมิน ที่ประเทศกัมพูชา โดยจะได้รับค่าตอบแทน รายละประมาณ 1,000 บาท เป็นเงินสดจากผู้ว่าจ้าง ซึ่งเป็นชายชาวกัมพูชา ในการรับส่งแต่ละครั้ง จะนัดรับบริเวณ ร้านสะดวกซื้อ 7-11 บขส.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ไปที่บ้านพักของตนแล้วพาเดินข้ามทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณใกล้กับหมู่บ้านที่ตนพักอาศัย ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งจะมีชาวกัมพูชารอรับอยู่

ทั้งนี้ เวลาเดียวกัน จับกุม นายพงษ์ธนา พิมพา ที่บ้านเลขที่ 166 ซ.อ่อนนุช 17 แยก 18 สวนหลวง สวนหลวง กรุงเทพ ขณะกำลังพักอาศัยอยู่ในบ้าน แต่ นายพงษ์ธนาฯ ยังให้การปฏิเสธ ว่า “ตนเองเป็นลูกน้องของนายอรรถชัย มีโพธิ์ (ถูกจับกุมที่ จ.สระแก้วเมื่อวันที่ 28 ก.ค.65) โดยยอมรับว่าเคยส่งคนพาข้ามชายแดนจริง แต่ไม่ทราบว่าคนไทยที่ออกไปนั้นจะไปทำคอลเซ็นเตอร์ โดยได้รับค่าจ้างจาก นายอรรถชัยฯ วันละ 1,000 บาท ในวันที่มีคนข้าม ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 2 ราย ได้ทำการจับกุม และควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง