หลังเจ้าหน้าด้านสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้ลงพื้นที่เชิงรุก เพื่อติดตามค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดเพิ่มเติม ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงชายชาวไนจีเรีย ซึ่งป่วยฝีดาษลิงรายแรกที่พบในประเทศไทย จนพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 19 คน และมีการส่งตัวอย่างไปทำการตรวจหาเชื้อในห้องปฏิบัติการ
ล่าสุดสุด นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต บอกว่า ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้ง 19 คน ผลตรวจออกมาเป็นลบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด โดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะทำการโทรศัพท์ไปสอบถามอาการทุก 7 วัน / 14 วัน และ 21 วัน และหลังจากกักตัวครบ 21 วันแล้ว จะมีการเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการอีกครั้งหนึ่ง
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ยังได้ขอความร่วมมือประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากโรคฝีดาษลิงติดต่อกันได้ยากกว่าโรคโควิด – 19 เพราะส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิดโดยตรงกับผู้ที่มีอาการโรคฝีดาษลิง ซึ่งมีตุ่มน้ำใส หรือตุ่มหนองที่ผิวหนัง ตามตัว รวมทั้งการสัมผัสเมื่อมีเพศสัมพันธ์
การป้องกันฝีดาษลิงทำได้โดยสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้บ่อย เลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก และปาก ระวังสัตว์กัดหรือข่วนไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่นไม่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยฝีดาษลิง
ส่วนวัคซีนโรคฝีดาษคน ที่องค์การเภสัชกรรมได้เก็บรักษาไว้ตามมาตรฐาน เมื่อประมาณ 40 ปีก่อน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้นำมาทดสอบพบว่า ยังมีคุณภาพดี หากมีความจำเป็นสามารถนำมาใช้ได้
ส่วนด้านการรักษาพยาบาล โรคนี้ไม่มียารักษาเฉพาะ จึงใช้การรักษาตามอาการ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะหายได้เอง และตอนนี้มีการสั่งการให้ด่านควบคุมโรคทั่วประเทศ ประสานงานกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้เพิ่มความระมัดระวังบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ และโรงพยาบาลคลินิกเอกชนเฝ้าระวังผู้ที่มีไข้ผื่นแดง ตุ่มใส ตุ่มหนอง และเน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงอย่างเข้มข้น