คัดลอก URL แล้ว
ฝากขัง! หนุ่มซิ่งเก๋งแดงหนีด่านตรวจ เบื้องต้นแจ้ง 5 ข้อหา พบเคยต้องโทษคดียาเสพมาติดมาแล้ว

ฝากขัง! หนุ่มซิ่งเก๋งแดงหนีด่านตรวจ เบื้องต้นแจ้ง 5 ข้อหา พบเคยต้องโทษคดียาเสพมาติดมาแล้ว

จากกรณีชายคนหนึ่งขับรถเก๋งสีแดงพยายามหลบหนีด่านตรวจและไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริเวณแยกปากซอยเอกมัย 28 จนถึงประชาสงเคราะห์ ย่านดินแดง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจต้องยิงสกัดยางรถ แต่ผู้ต้องสงสัยขับรถหนีไปได้ แล้วจอดรถทิ้งไว้ห่างจาดจุดเกิดประมาณ 2 กิโลเมตร ตรวจค้นในรถยนต์พบรถยาไอซ์ 2.77 กรัม และมีดดาบยาว 2 เล่ม

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่จำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้แล้ว จากการสอบถาม พันตำรวจเอก ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ บอกว่า ผู้ต้องหาชื่อนายสมชาย แวสตางค์ อายุ 45 ปี จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้กระทำความผิดจริง และที่หลบหนีเพราะเกิดความกลัวว่าจะถูกตรวจค้นและถูกจับกุม เนื่องจากเจ้าตัวเพิ่งจะเสพยาเสพติดมาและมียาเสพติดอยู่ภายในรถยนต์อีก เพราะก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเพิ่งจะพ้นโทษในคดียาเสพติดมา 2 ครั้ง ในปี 2551 และ 2560 ในคดีเสพและครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุนั้น

จากการสืบสวนพบว่าเป็นรถยนต์ของคนที่มาจำนำกับผู้ต้องหา ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องหาขับรถไปที่สามเหลี่ยมดินแดงนั้น ผู้กำกับบอกว่า ผู้ต้องหาตกใจจึงขับหลบหนีไปเรื่อยๆ แต่เมื่อไปถึงที่จุดจอดทิ้งรถ ก็ไปซ่อนตัวและโทรให้เพื่อนออกมารับตัวไปกลบดาน และก่อนหน้าที่จะมาถึงด่านตรวจผู้ต้องหาบอกว่าไปซื้อยามาเสพเองคนเดียวและตั้งใจจะออกไปหาเพื่อนคนหนึ่งแต่ก็เกิดเหตุการณ์ซะก่อน ส่วนรถยนต์ของกลางที่เสียหายนั้น ผู้ต้องหาต้องรับผิดเอง โดยหลังจากนี้จะต้องขยายผลเพราะประวัติผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป

ทั้งนี้เบื้องต้นตำรวจได้แจ้ง 5 ข้อหา คือ ครอบครองยาเสพติด ประเภท1 (ไอซ์) / พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร / ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน / ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งตำรวจจะคัดต้านการประกันตัวเนื่องจากคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำที่ สน.ทองหล่อ ก่อนนำตัวส่งศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อฝากขังต่อไป โดยระหว่างคุมตัวผู้ต้องขึ้นรถ นายสมชายไม่ได้พูดคุยหรือตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวศิริมา แวสะดังค์ อายุ 57 ปี พี่สาวของผู้ต้องหา บอกว่า ผู้ต้องหาเป็นน้องชายแท้ๆ ของตน แต่ไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกันมานานเกือบ 10 ปี และไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องตนได้ทราบข่าวจากการที่มีคนมาบอกว่าน้องชายถูกจับเมื่อวานนี้ หลังจากทราบข่าวก็เป็นลม นอนไม่หลับ ไม่คิดว่าน้องชายจะมาถูกจับอีก เพราะก่อนหน้านี้น้องชายเคยติดคุกคดียาเสพติดและพ้นโทษออกมาแล้ว แต่ตนจำไม่ได้ว่านานแค่ไหน เพราะไม่เคยไม่เยี่ยม

นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ที่ตนเดินทางมาวันนี้เพราะอยากมาเยี่ยมน้องชาย แต่ยังไม่ได้พูดคุยกัน ไม่อยากคุยและไม่อยากเห็นหน้า เพราะกลัวจะเป็นลม ซึ่งก่อนหน้าที่ตนได้เคยเตือนน้องชายให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหลายครั้งแต่ก็ไม่เชื่อฟัง โดยปกติแล้วน้องชายจะขับมอไซต์รับจ้างที่ซอยเอกมัย 30 แยก 2 ซึ่งเธอเป็นคนออกรถมอไซต์ให้เอง และน้องชายมีลูก 1 อายุประมาณ 10 ขวบ พร้อมบอกด้วยว่าปกติน้องชายเป็นคนมีนิสัยดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่เคยมีเรื่องชกต่อย แต่เสียอย่างเดียวคือเรื่องยาเสพติด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง