KEY :
- กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่บริเวณถนนข้าวสาร เดินแจกใบปลิว เพื่อสร้างสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ในการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง
- ระบุการนำกัญชามาประกอบในอาหาร ไม่ต้องขออนุญาตแต่จะต้องมีคำแนะนำปริมาณสัดส่วนของกัญชาให้ผู้บริโภคทราบชัดเจน
- กรณีที่มีการพบเห็นการขายขนมที่มีส่วนผสมกัญชาวางขาย โดยไม่ระบุปริมาณที่ชัดเจนมีความผิด
วันนี้ (12 ก.ค. 65) กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ลงพื้นที่บริเวณถนนข้าวสาร เดินแจกใบปลิว เพื่อสร้างสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนผู้ประกอบการร้านค้า สถานบันเทิงต่างๆในการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง
นพ.ยงยศ ระบุว่า กรมการแพทย์แผนไทยฯได้ทำความเข้าใจเพิ่มเติมกับประชาชนเกี่ยวกับประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ ประกาศฉบับดังกล่าวได้มีสาระสำคัญแฝงอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่
- 1.คุ้มครองกลุ่มเปราะบางไม่ให้เข้าถึงกัญชา กัญชง สารสกัด ไม่ว่าจะมีใบอนุญาตหรือไม่มีใบอนุญาต ห้ามขายให้บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี, สตรีมีครรภ์, สตรีให้นมบุตร
- 2.เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สามารถใช้องค์ความรู้จากกัญชาอย่างกว้างขวาง
- 3.ผู้ป่วยสามารถนำกัญชามาใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพตามวัยอย่างปลอดภัยและเหมาะสมตามประกาศดังกล่าว
ใน พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาไทยการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ได้มี ประกาศโดยรัฐมนตรีว่าการ สธ. ให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ซึ่งตามมาตรา 46 ห้ามไม่ให้ผู้ใด ศึกษา วิจัยหรือส่งออกสมุนไพรควบคุมหรือจำหน่ายหรือแปรรูปเพื่อการค้า ว้นแต่จะได้รับอนุญาต โดยแปรรูปในที่นี้ หมายถึง การปรุงแต่งหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพหรือคุณสมบัติของสมุนไพร ซึ่งหากไม่ได้รับการอนุญาตก็จะมีโทษตามกฎหมายจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนการนำกัญชามาประกอบในอาหาร ไม่ต้องขออนุญาตแต่จะต้องมีคำแนะนำปริมาณสัดส่วนของกัญชาให้ผู้บริโภคทราบชัดเจน กรณีที่มีการพบเห็นการขายขนมที่มีส่วนผสมกัญชาวางขาย โดยไม่ได้มีการแจ้งปริมาณที่ชัดเจน นพ.ยงยศ กล่าวว่า ผู้ประกอบการรายนั้นจะมีความผิด หากไม่ได้ขออนุญาต ตามมาตรา 46
ภาพ – กฤติกร จิตติอร่ามกูล
