แซนดี้ ขึ้นโพเดียมอันดับที่ 2 ในเรซแรก แบบสะกดทุกหัวใจแทบหยุดเต้นในช่วงการไล่ล่าแชมป์ในช่วงรอบสุดท้ายในศึกรถยนต์ทางเรียบสุดยิ่งใหญ่ในเมืองไทยและอาเซียน รายการ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ซีรีส์ (Thailand Super Series) “บางแสนกรังปรีซ์” (Bangsaen Grand Prix 2022) ที่จบลงในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางผู้เข้าชมนับแสนตลอดงาน 5 วันเต็ม
ตารางการแข่งขันรุ่น Thailand Super Car GT3 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.- 3 ก.ค. 65 โดยในเช้าวันพุธที่ 29 มิ.ย เป็นการฝึกซ้อมอย่างทางการครั้งแรก (Official Practice 1) หลังจากงดจัดการแข่งขันเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 นานเกือบ 3 ปี แซนดี้ตั้งตารอคอยที่จะได้กลับมาแข่งบนสตรีทเซอร์กิตระดับสากลที่เป็นสนามประเภท FIA เกรด 3 แห่งนี้อีกครั้ง ในการฝึกซ้อมครั้งแรกนี้ แซนดี้เป็นผู้ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุด (fastest laptime)
ในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 30 มิ.ย. เป็นการฝึกซ้อมอย่างทางการครั้งที่ 2 (Official Practice 2) แซนดี้ก็เป็นผู้ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุดอีกครั้งด้วยรถ อาวดี้ อาร์ 8 จีที 3 อีโว 2 ซึ่งแสดงได้ถึงความพร้อมของรถที่ทางทีมบี-ควิก แอบโซลูต เรซซิ่ง (B-Quik Absolute Racing) เซ็ทอัพรถแข่งอย่างลงตัวที่สุดเพื่อสตรีทเซอร์กิตที่มีโค้งและพื้นผิวถนนสุดท้าทาย เพื่อรอบควอลิฟายที่จะเกิดขึ้นจริงในวันรุ่งขึ้น
ในวันบ่ายศุกร์ที่ 1 ก.ค. เป็นรอบคัดเลือกจัดอันดับการแข่งขันออกจากจุดสตาร์ท หรือ ควอลิฟาย โดยอากาซ แนนดี้ (Akash Nandy) ทีมเมทใหม่ชาวมาเลเซียของแซนดี้เป็นผู้ลงรอบควอลิฟายแรก และอากาซคว้าอันดับ 1 หรือตำแหน่งโพลโพซิชั่น (Pole Position) เพื่อเขาจะได้ออกจากจุดสตาร์ทในวันแข่งขันเรซที่ 1 ส่วนควอลิฟายที่ 2 แซนดี้ก็คว้าอันดับ 1 เช่นกัน นับได้ว่าแซนดี้เสมือนเป็น ราชานักแข่งแห่งสนามบางแสน (King of Bangsaen)
หลังรอบควอลิฟาย แซนดี้ กล่าวว่า “ แซนดี้รู้สึกมีความสุขมากกับผลงานการควอลิฟายของเราสองคน เราเป็นทีมเมทที่เหมาะสมมากกับรถอาวดี้ อาร์ 8 อีโว 2 ซึ่งต้องขอขอบคุณทีม บี-ควิก แอบโซลูต เรซซิ่ง (B-Quik Absolute Racing) ที่เตรียมรถแข่งที่ดีที่สุดให้เราสองคนจนทำให้เราทำผลงานได้ดี และพอใจกับผลงานอย่างที่สุด”
และในที่สุดการแข่งขันครั้งแรก เรซที่ 1 (Race 1) ก็เกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 2 ก.ค. โดยอากาซ แนนดี้ (Akash Nandy) จะเป็นผู้ลงการแข่งขันเป็นคนแรก ออกจากจุดสตาร์ทเป็นคันแรก และเมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น อากาซเสียจังหวะไป ทำให้อันดับหล่นไปที่ 4 แต่อย่างไรก็ตามเขาสามารถไล่แซง ไต่อันดับกลับขึ้นไปอันดับ 2 ก่อนส่งพวงมาลัยต่อให้แซนดี้ในช่วงพิทสต็อป (Pit-stop window) แต่ทั้งคู่เป็นนักแข่งระดับซิลเวอร์ ตามกติกานักแข่งต้องหยุดอยู่ที่พิทนานกว่าคู่แข่งที่มีระดับต่ำกว่า ทำให้เมื่อแซนดี้ออกจากพิท อันดับรถแข่งหมายเลข 25 หล่นไปอยู่อันดับที่ 4 แต่อย่างไรก็ตามแซนดี้ก็จะไล่แซงไต่อันดับขึ้นมาให้ได้ จนเมื่อถึงเวลารถคู่แข่งคันหนึ่งเกิดเหตุ ทำให้รถเซฟตี้คาร์ต้องออกมานำรถแข่งทุกคันที่กำลังแข่งอยู่ ส่งผลให้ระยะห่างของรถแข่งทุกคันเข้ามาชิดติดกันมากขึ้น และโอกาสก็มาถึงมือแซนดี้สามารถไล่บี้กดคันเร่งแบบไม่คิดชีวิตผ่านหลายโค้งอย่างดุดัน ไต่อันดับขึ้นมาที่ 2 ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย และเร่งไล่บี้คันที่เหลืออยู่ 1 คันในช่วงนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน แต่รถมีกำลังน้อยกว่าในช่วงทางตรงและเวลาการแข่งขันได้หมดลงเสียก่อนทำให้แซนดี้ไม่เหลือเวลาไล่แซงต่อได้ ทำให้แซนดี้จบอันดับที่ 2 โดยห่างจากอันดับ 1 เพียงครึ่งคันเท่านั้น ทำให้แฟน ๆ มอเตอร์สปอร์ตที่กำลังชมอยู่ที่สนามและทางบ้านรู้สึกตื่นเต้น เร้าใจกับการไล่ล่าชิงแชมป์ของแซนดี้ แม้เป็นอันดับที่ 2 บนสนามแข่ง แต่ได้ขึ้นอันดับที่ 1 ในใจของหลายคนที่ชมอยู่อย่างแน่นอน
หลังการแข่งครั้งที่ 1 (Race 1) แซนดี้ กล่าวว่า “แซนดี้พอใจกับผลงานการแข่งขันในวันนี้ เพราะแซนดี้พยายามสู้สุดใจและสุดกำลังของแซนดี้ที่มีแล้ว เราจะได้เปรียบในช่วงทางโค้ง แต่ทางตรงรถของเราจะมีกำลังน้อยกว่าและเวลาที่หมดลง อย่างไรก็ตามแซนดี้รู้สึกดีมากที่ทำให้ทุกคนที่ติดตามรับชมในวันนี้รู้สึกสนุกกับการแข่งรถ นี่แหละคือเสน่ห์ของมอเตอร์สปอร์ตครับ”
และการแข่งขันในครั้งที่ 2 (Race 2) ซึ่งเป็นเรซสุดท้ายของการแข่งขันในสนามนี้ เกิดขึ้นในบ่ายวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ค. แซนดี้ลงขับรถอาวดี้ อาร์ 8 จีที 3 อีโว 2 (Audi R8 GT3 Evo II) หมายเลข 25 เป็นคนแรก โดยออกจากจุดสตาร์ทอันดับที่ 4 เพราะโดยปรับโทษในรอบควอลิฟายที่ 2 ในวันศุกร์ อย่างไรก็ตามเมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นช่วงนาทีแรก แซนดี้ใช้โอกาสที่คันนำหน้าเสียอาการ ไต่อันดับขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ได้ทันที แซนดี้พยายามกดคันเร่งแซงคันนำหน้าอย่างเต็มที่ จนถึงช่วงปากทางพิทเปิดเพื่อสลับตัวนักแข่งเป็นอากาซ แนนดี้ (Akash Nandy) อากาซลงสนามอีกครั้งสามารถไล่บี้คันนำอย่างดุดันไต่อันดับขึ้นมาอันดับ 2 จนได้ ระยะชิดติดอันดับ 1 แต่ในช่วง 6 นาทีสุดท้าย โชคไม่เข้าข้าง รถเกิดปัญหาที่เพลา ทำให้ต้องจอดและไม่สามารถจบการแข่งขันในเรซที่ 2 อย่างน่าเสียดาย
หลังจบการแข่งขันครั้งที่ 2 (Race 2) แซนดี้ กล่าวว่า “ มันเป็นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น เราพลาดคะแนนเก็บสะสมไป 18 คะแนน แต่เราทั้งคู่ก็ทำเต็มที่อย่างที่สุดแล้ว และภูมิใจกับผลงานที่ทำร่วมกันในวันนี้ เป็นความรู้สึกที่ดีมากที่ได้กลับมาแข่งสนามบางแสนและร่วมงานกับทีมบี-ควิก แอบโซลูตเรซซิ่งอีกครั้ง ฤดูกาลแข่งขันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เราโฟกัสที่จะไปสู้กันต่อที่สนามช้าง จ.บุรีรัมย์แล้ว”