KEY :
- นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน พร้อมนายอัจฉริยะ เรืองรัตน์พงศ์ ได้เดินทางเข้าพบตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) ชี้แจงกรณีการส่งโทรศัพท์ให้กับบังแจ็คที่ต่างประเทศ
- ด้านตร.ระบุ มีการตั้งประเด็นคำถาม 30 ประเด็นในเรื่องดังกล่าวนี้
- แม่แตงโม ให้เหตุผลที่ส่งมือถือไปในบังแจ็คเนื่องจากใจร้อน อยากรู้ว่าในมือถือมีข้อมูลอะไรบ้าง และไม่รู้ว่าในไทยสามารถกู้ข้อมูลได้เช่นกัน จึงตัดสินใจส่งให้บังแจ็ค
…
วันนี้ (7 มิ.ย. 65) แม่แตงโม หรือนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน พร้อมนายอัจฉริยะ เรืองรัตน์พงศ์ ได้เดินทางเข้าพบตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) เพื่อชี้แจงกรณีที่ส่งโทรศัพท์ของแตงโมให้บังแจ๊ค โดยนางภนิดา ได้กล่าวว่า ยังคงติดต่อกับบังแจ๊คอยู่ เชื่อมั่นในตัวบังแจ๊ค ไว้ใจเหมือนเดิมเพราะเป็นเพื่อนกัน และวันนี้ก็ไม่กังวลที่ต้องให้ปากคำ ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนทันที โดย พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. จะเข้าสอบปากคำด้วยตัวเอง
พล.ต.ท.กรไชย ระบุว่า วันนี้เชิญแม่แตงโมมาชี้แจงกรณีที่ส่งโทรศัพท์ของแตงโมให้บังแจ๊ค ซึ่งบังแจ๊คได้นำข้อมูลไปเผยแพร่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยต้องการสอบถามถึงสาเหตุที่ส่งไปเพราะอะไร มีแรงจูงใจอะไรหรือไม่ และยังมีอีกกว่า 30 ประเด็นที่อยากถาม และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าโทรศัพท์ของแตงโมถูกส่งกลับคืนมาแล้วหรือยัง
พล.ต.ท.กรไชย ระบุอีกว่า แม่ยังไม่ใช่ผู้ต้องหา ยังไม่มีความผิด ส่วนบังแจ๊คตอนนี้ได้ขออนุมัติการสอบสวนไปแล้ว หากมีความผิดจริงก็จะออกหมายแดงเข้าสู่กระบวนการติดตามตัวมาดำเนินคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 บัญญัติว่า “ถ้าความผิดซึ่งมีโทษตาม กฎหมายไทยได้กระทําลงนอกราชอาณาจักรไทย ให้อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทนเป็นพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบหรือจะมอบหมายหน้าที่นั้นให้พนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนคนใดเป็นผู้รับผิดชอบทําการ สอบสวนแทนได้” และสำหรับการสอบปากคำครั้งนี้ อนุญาตเพียงนางภนิดาและทนายความเข้าร่วมเท่านั้น
แม่แตงโมระบุ ส่งให้บังแจ็คเพราะอยากรู้
นางภนิดา ได้กล่าวถึง กรณีที่ส่งมือถือให้บังแจ็ค เนื่องจากไม่ทราบว่า ประเทศไทยสามารถกู้ข้อมูลกลับมาได้ ซึ่งหากรู้ก่อนหน้านี้ ก็คงไม่ส่งไป ซึ่งนางภนิดา ระบุว่า ขอความเห็นใจด้วย เนื่องจากทนายไม่ได้ช่วยในเรื่องประเด็นนี้
ซึ่งก่อนหน้านี้ นางภนิดาได้กล่าวว่า ได้เดินทางไปยังศูนย์โทรศัพท์มือถือแล้ว แต่ที่ศูนย์มีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนมากจึงกลัวว่า ข้อมูลจะรั่วไหลได้ และด้วยความที่อยากรู้ข้อมูลในมือถือของแตงโม ซึ่งก็มีผู้แนะนำให้ส่งโทรศัพท์ให้กับบังแจ็ค
โดยบังแจ็คได้อ้างว่า รู้ข้อมูลบนเรือ และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พร้อมแสดงหลักฐานต่าง ๆ ทำให้นางภนิดาเชื่อ และความใจร้อนอยากรู้ จึงได้จัดส่งไปบังแจ็ค
ส่วนกรณีของเงินที่บังแจ็คโอนมาให้จำนวน 3 แสนบาทนั้น เป็นการโอนให้กับพยานบุคคลรายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งนางภนิดารับว่า บังแจ็คได้มีการสำรองข้อมูลในโทรศัพท์ของแตงโมไว้ และอยู่ในระหว่างจัดส่งให้ ซึ่งนางภนิดายืนยัน ในโทรศัพท์มือถือของน้องแตงโมไม่มีภาพโป๊แต่อย่างใด
ภาพ – กฤติกร จิตติอร่ามกูล
