KEY :
- ชัชชาติ วิ่งออกกำลังกายแต่เช้า สวนบางกอกใหญ่ เดินหน้าหาพื้นที่สีเขียว
- การสรรหารองผู้ว่าฯ กทม. ใช้ระบบโควตาเลือกคนอย่างเป็นอิสระ
- ยอมรับว่านโยบายกรุงเทพ 15 นาที อาจทำไม่ได้ครบทุก 50 เขตภายใน 4 ปีเพราะแต่ละส่วนต้องใช้เวลาประสานความร่วมมือกับทุกฝ่าย
วันนี้ ( 26 พ.ค. 65 ) เมื่อเวลา 06.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังคงฟิตต่อเนื่อง เดินทางมา วิ่งออกกำลังกายแต่เช้า สวนบางกอกใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสวนแห่งเดียวในเขตนี้ เพื่อสำรวจพื้นที่สีเขียว
โดยบรรยากาศระหว่างเส้นทางวิ่งมีประชาชนที่มาออกกำลังกายมาขอถ่ายรูป พร้อมกับมอบเสื้อ “สวนบางกอกใหญ่” ซึ่งเป็นเสื้อออกกำลังกายของคนในพื้นที่ให้นายชัชชาติ นายชัชชาติจึงเปลี่ยนไปสวมเสื้อสวนบางกอกใหญ่ และร่วมเต้นแอโรบิกกับคนในชุมชน จากนั้นมีว่าที่ ส.ก.พรรคประชาธิปัตย์ได้ร่วมนำเดินสํารวจ บ้านทรงไทยในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อสะท้อนปัญหาในพื้นที่
ทั้งนี้นายชัชชาติระบุว่าสวนนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) เช่าพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์มีขนาดทั้งสิ้น 2.5 ไร่ สวนนี้ตรงกับนโยบายของตน คือเป็นสวนที่ต้องอยู่ใกล้บ้านคน ตามแนวคิดกรุงเทพ 15 นาที และอยากให้มีพื้นที่แบบนี้กระจายทั่วกรุงเทพฯ ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก แต่เป็นพื้นที่ที่มีคุณค่า
ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่ายังมีหลายส่วนในสวนทรุดโทรม ต้องได้รับการปรับปรุงและขยายพื้นที่ เพราะพื้นที่โดยรอบสวน เป็นพื้นที่ว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ ทั้งของราชการและเอกชน ในอนาคตจะต้องมีการพูดคุย หรือต้องใช้มาตรการทางภาษีเข้ามาจัดการ อาจจะเป็นวิธีการขึ้นภาษีที่ดินกับเอกชนที่ใช้พื้นที่ไม่คุ้มค่า หรือ อาจจะยอมให้ กทม. เช่าทำเป็นพื้นที่สีเขียว ลานกีฬา และเปิดโอกาสให้ชุมชนในพื้นที่มาดูแล
นายชัชชาติ ยอมรับว่านโยบายกรุงเทพ 15 นาที อาจทำไม่ได้ครบทุก 50 เขตภายใน 4 ปีเพราะแต่ละส่วนต้องใช้เวลาประสานความร่วมมือกับทุกฝ่าย แต่หากสามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวในลานกีฬาก็อาจจะครบตามแผน โดยยืนยันว่าต้องทำเต็มที่ในทุกเขตต้องทำให้มีพื้นที่สีเขียวและต้องส่งเสริมให้ชุมชนต้องช่วยกันดูแลหากเป็นพื้นที่สีเขียวแต่รกร้างก็ไม่มีประโยชน์ ฉะนั้นวิธีการจึงไม่ใช่แค่เอาของไปใส่แต่ชุมชนต้องร่วมออกแบบ
ขณะเดียวกับนายชัชชาติ ชี้แจงองค์ประกอบของทีมการเมืองเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ที่ปรึกษายุทธศาสตร์ ที่ปรึกษาการเมือง และรองผู้ว่าฯ กทม.
- ที่ปรึกษายุทธศาสตร์ รับผิดชอบการผลักดัน 214 นโยบาย ทั้งคอยควบคุมทิศทางการดำเนินงานตามเป้าหมาย และจัดสรรงบประมาณสนับสนุนนโยบาย
- ที่ปรึกษาการเมือง รับผิดชอบงานด้านการเมือง กลุ่มนี้มาทำงานด้วยใจ
- รองผู้ว่าฯ กทม. จะเป็นฝ่ายปฏิบัติการ (Operation) ที่รับผิดชอบลงลึกในแต่ละด้าน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการสรรหารองผู้ว่าฯ กทม. ว่ามีการกดดันจากพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชัชชาติ ตอบว่า ไม่มีเลย เพราะเราใช้ระบบโควตา เราเลือกคนอย่างเป็นอิสระ ไม่มีพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่เกี่ยวข้องคือ ส.ก. ในแต่ละพื้นที่ที่ช่วยนำเสนอปัญหารายเขต และถึงกระแสที่ ผศ.เกศรา ธัญลักษณ์ภาคย์ หรือ ดร.ยุ้ย ปฏิเสธการรับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. นั้น นายชัชชาติ ตอบว่า ทุกคนที่มาร่วมงานแต่ต้นไม่ได้หวังตำแหน่ง ดร.ยุ้ย เก่งเรื่องยุทธศาสตร์ ตำแหน่งที่เหมาะสมอาจไม่ใช่รองผู้ว่าฯ แต่เป็นที่ปรึกษา Chief Strategist ที่จะผลักดันทุกนโยบายที่เราทำ
ส่วนกระแสที่นายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. สมัย พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าฯ กทม. นั้น นายชัชชาติ ตอบว่า ทุกท่านยืนยันว่าท่านจักกพันธุ์ เป็นคนดีมาก ๆ ตีสี่คุยกับท่านได้ทุกเช้า ท่านตัวคนเดียวไม่มีครอบครัว เรื่องโปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งข้าราชการทุกคนพูดเหมือนกัน จึงยืนยันว่าท่านเป็นเพชรของ กทม. เป็นคนหนึ่งในกลุ่มที่เราพิจารณา เพราะเราต้องการคนเข้าใจงาน เราไม่มีเวลาฮันนีมูน และโชคดีเราเดินทางมา 2 ปีจึงมีโอกาสได้ถามแต่ละท่านมาร่วมงาน
อย่างไรก็ตาม ส่วนภารกิจช่วงบ่ายที่จะลงพื้นที่เขตดอนเมือง ภายในหมู่บ้านปิ่นเงิน ซอยช่างอากาศอุทิศ ที่ก่อนหน้านี้พบว่ามีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากหนัก วันนี้จะกลับไปอีกครั้งพร้อมกับส.ก.เพื่อไทยเพื่อดูพื้นที่ ส่วนช่วงเย็นจะไปร่วมทำบุญที่เขตสายไหม ร่วม กับนาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ ส.ก.ของพรรคไทยสร้างไทยซึ่งเป็นการเจอกันครั้งแรกหลังจบจากการหาเสียง ซึ่งเขตสายไหมจะดูปัญหาเรื่องการจัดการขยะเนื่องจากประชากรเพิ่มขึ้นแต่อุปกรณ์จัดเก็บยังเท่าเดิม บางเขตทราบมาว่าจัดเก็บสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น จึงอาจต้องเพิ่มให้สมดุลกับจำนวนประชากร และการลงพื้นที่ในวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีเพราะเจอ 3 พรรคในวันเดียว
ภาพ – วิชาญ โพธิ
