คัดลอก URL แล้ว
ทอท. แจงกรณีผู้บุกรุกเข้าเขตการบิน ย้ำสนามบินสุวรรณภูมิ ปลอดภัย-มาตรฐานโลก

ทอท. แจงกรณีผู้บุกรุกเข้าเขตการบิน ย้ำสนามบินสุวรรณภูมิ ปลอดภัย-มาตรฐานโลก

KEY :

วันนี้ (4 พ.ค.65) นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีมีผู้บุกรุกเข้าเขตการบิน โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถเข้าระงับเหตุสกัดจับได้ ขณะนี้ผู้บุกรุกได้ถูกจับกุมนำส่งตัวดำเนินคดีข้อหาบุกรุก และใช้อาวุธกระทำการอันอาจเป็นอันตรายต่อท่าอากาศยาน

โดยนายกิตติพงศ์ ชี้แจงว่า ได้รับแจ้งเหตุศูนย์รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตลอดเหตุการณ์ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขับรถยนต์สายตรวจเข้าตามสกัดจับผู้บุกรุก แต่เนื่องจากผู้บุกรุกมีอาวุธทางเจ้าหน้าที่จึงต้องใช้กำลังในการควบคุม โดยสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในเวลา 12.03 น. และนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ก่อนที่ผู้บุกรุกจะพยายามหนีเข้าไปในสะพานเทียบอากาศยาน

กิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุเป็นชายไทย อายุ 34 ปี ขณะจับกุมบุคคลดังกล่าวยังมีอาการมึนเมาจากการเสพยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืนสั้น และของมีคม (ขวานเหล็ก,กรรไกร) พร้อมด้วยยาบ้า 1 เม็ด

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ส่งผลต่อการให้บริการผู้โดยสารและเที่ยวบิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทสภ. ได้ปฏิบัติหน้าที่เข้าระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที และเป็นไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธจึงทำให้ผู้ก่อเหตุ และเจ้าหน้าที่รักษาความปล่อดภัยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และได้รับการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

ส่วนผู้ก่อเหตุ นอกจากจะถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกเข้าไปในขตพื้นที่หวงห้ามภายในท่อากาศยานแล้ว จะต้องถูกดำเนินคดีจากข้อหากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 ตามมาตรา 19 ด้วยข้อหาใช้อาวุธหรือวัสดุอื่นใดกระทำการอันอาจเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยาน ซึ่งมีระวางโทษหนักอาจถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หกแสนบาทถึงแปดแสนบาท

นอกจากนี้ยังมีความผิดในการทำลายทรัพย์สินของท่าอากาศยานจนได้รับความเสียหาย รวมทั้งมีความผิดเนื่องจากเสพและมียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายอีกด้วย ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ส่งผลให้มีทรัพย์สินส่วนหนึ่งของ ทสภ. ได้รับความเสียหาย โดยตรวจพบประตูกระจกตรงช่องทงเข้าอาคารเทียบเครื่องบิน แตกเสียหายจำนวน 2 บาน เนื่องจากผู้บุกรุกได้ใช้อาวุธทุบประตูกระจกเพื่อพยายามหลบหนีเข้าไปในอาคารแต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสกัดจับได้เสียก่อน

ทั้งนี้ ทาง ทสภ. มีการปฏิบัติตามขั้นตอนด้านการรักษาความปลอดภัยโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และ ผู้โดยสารเป็นสำคัญ และยังให้ความเชื่อมั่นด้วยว่า ในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยตามมาตรฐานโลก


ภาพ – ธนโชติ ธนวิกรานต์


ข่าวที่เกี่ยวข้อง