คัดลอก URL แล้ว
ตำรวจบุกค้นบ้าน “เจ๊ข้าว”ยอมรับฉี่รดหน้าอดีตลูกน้องจริง เหตุถูกแขวะเรื่องกระเป๋าแบรนด์เนม

ตำรวจบุกค้นบ้าน “เจ๊ข้าว”ยอมรับฉี่รดหน้าอดีตลูกน้องจริง เหตุถูกแขวะเรื่องกระเป๋าแบรนด์เนม

พ.ต.อ.ไกรศร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.จ.สระบุรี นำกำลังตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 และสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี กว่า 30 นาย นำหมายค้นศาลจังหวัดสระบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 29/71 หมู่ 2 ต.โคกสว่าง อ.เมือง จ.สระบุรี ของ น.ส.เพ็ญศิริ หรือเจ๊ข้าว หลังจากนายอาร์ม อดีตลูกน้องแจ้งความว่าถูกเจ๊ข้าวลงโทษด้วยการปัสสาวะรดหน้า ก่อนโพสต์เฟซบุ๊กประจาน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ส่วนอีกคดี ที่เข้าแจ้งความพร้อมกับ น.ส.ปั๊บ หรือเจ๊ปั๊บ ที่เคยถูกเจ๊ข้าวทำร้ายและข่มขู่เพราะการยืมเงินแล้วส่งคืนไม่ทัน  พร้อมยังส่งชายฉกรรจ์มารุมขู่ล้อมรถ ทั้งขู่ยิงทิ้ง ทำร้ายร่างกาย จนต้องเปลี่ยนที่อยู่

การตรวจค้นตำรวจได้นำผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน 4 คน ตรวจหาสารเสพติด ซึ่งผลการตรวจก็ไม่พบว่ามีฉี่สีม่วง และไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ได้ตรวจยึดสมุดหนังสือมอบอำนาจ เช็คเงินสด 300,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซึ่งเป็นของ น.ส.เพ็ญศิริ และ นายจิรายุทธ สามีของ น.ส.เพ็ญศิริ พร้อมด้วยเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปตรวจสอบ รวมทั้งเชิญตัว น.ส.เพ็ญศิริ และ นายจิรายุทธ ไปยัง สภ.เมืองสระบุรี เพื่อสอบหาสาเหตุเกี่ยวกับการที่ไปยืนฉี่รดหน้า นายอาร์ม ผู้เสียหาย

ด้าน เจ๊ข้าว ยอมรับว่าก่อเหตุจริงกรณีของนายอาร์มเป็นลูกน้อง คอยซื้อของให้ และเข้านอกออกในบ้านได้ตลอด ซึ่งในวันนั้น นายอาร์ม ได้เอากระเป๋าแบรนด์เนม มาขายให้ 3 ใบ ในราคา 80,000 บาท แต่ได้บอกไปว่าสภาพของแบบนี้นะไม่ถึง 80,000 บาท ซึ่ง นายอาร์ม ก็ถามกลับมาว่าจะให้ราคาเท่าไร  ก็ไม่ได้ตอบเพราะไม่คิดที่จะซื้อ จากนั้น นายอาร์ม ได้ขึ้นสเตตัสว่า คนจริงไม่พูดเยอะ 3 ใบ 90,000 บาท ทำเหมือนว่าขายได้แล้ว ซึ่งที่จริงแล้วยังขายไม่ได้

พอเห็นเขาโพสต์แบบนี้จึงเกิดความโมโหว่า คุณส่งกระเป๋ามาขายให้เรา แล้วมาโพสต์แบบนี้ ว่าเราหรือเปล่า ยอมรับว่าโมโหที่ถูกแขวะ จึงบอกว่าขายกระเป๋าได้เงินแล้วให้เอาเงินมาใช้หนี้นะ ก็ไม่คิดว่าจถูกด่าขนาดนี้ จากนั้นก็มีการท้าทายกัน ยอมรับว่าปัสสาวะรดหน้าจริง เพราะโมโห ไม่อยากให้เขาเจ็บตัว แต่อยากให้จำ เจ๊ข้าว ยอมรับในข้อกล่าวหาที่ตำรวจตั้งไว้ในคดีนี้

ส่วนในเรื่องกรณีของ เจ๊ปั๊บนั้น เป็นอดีตเลขา และโกงเงินมา 3 รอบแล้ว ก็ให้อภัยมาโดยตลอด เห็นว่าที่ฝ่ายเจ๊ปั๊บให้ข่าวก็ไม่ตรงกับความจริง ยอดเงินก็ไม่ตรง มีหลักฐาน เงินที่ยืมไปในแต่ละครั้งเป็นเงินแสน ครั้งแรกประมาณ 4-5 ปีมาแล้ว ไม่มีหลักฐานก็ยกยอดไป ตอนนี้ยอดเงินคงเหลืออีกประมาณ 6 หมื่นกว่าบาท ครั้งที่ 2 เป็นเงิน 1.5 แสนบาท ใช้มาบ้างแล้วเหลือประมาณ 1.1 แสนบาท และครั้งที่ 3 ล่าสุดที่เลิกคบกันแล้วไล่ออกไป 6 หมื่น แต่ใช้มาแล้วประมาณ 3 หมื่นบาท สรุปแล้วยังคงเหลือยอดอยู่อีกประมาณ แสนกว่าบาท


ข่าวที่เกี่ยวข้อง