จากกรณีที่เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ บัวดก อายุ 21 ปี ขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ทะเบียน 1 กผ 9942 เชียงราย ชนแพทย์หญิงวราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย บริเวณหน้าโรงพยาบาลสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ซึ่งเป็นเขตชุมชุนด้วยความเร็ว 108-128 กิโลเมตรเกินกว่ากฎหมายกำหนด จนแพทย์หญิงวราลัคน์ ถึงแก่ความตาย
ล่าสุดวันนี้ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ. 399/2565 ที่พนักอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง สิบตำรวจตรี นรวิชญ์ บัวดก อายุ 21 ปี ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน เป็นจำเลยในความผิดฐานขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาอื่นๆ รวม 9 ข้อหา ได้แก่ 1. นำรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ 2. ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี 3. ใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัย 4. นำรถไม่สมบูรณ์มาขับและไม่ติดกระจกมองข้าง 5. ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย 6. ขับรถจักรยานยนต์เร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 7. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 8. ขับรถโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง และ 9. ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
โดยนายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความ กล่าวว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งลงโทษสิบตำรวจตรีนรวิชญ์ ให้จำคุก 2 ปี 30 วัน ไม่รออาญา และปรับ 8,000 แต่จำเลยรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี 15 วัน ปรับ 4,000 บาท และยึดใบอนุญาตขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์โดยไม่ระบุกำหนดเวลา โดยศาลเห็นว่าพฤติกรรมของจำเลยเป็นการขับรถเร็วในเขตชุมชน ซึ่งมีสถานพยาบาล เหตุเกิดตรงทางม้าลาย จำเลยเพิกเฉยต่อความปลอดภัย ต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น ซึ่งตนเห็นพ้องด้วยในส่วนนี้ที่ว่าศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ ซึ่งตอนนี้จำเลยกำลังทำเรื่องประกันตัวโดยเตรียมหลักทรัพย์มาจำนวนหนึ่ง
เบื้องต้นได้แจ้งให้ทางครอบครัวหมอกระต่ายทราบแล้ว หลังจากนี้ต้องพิจารณาร่วมกับครอบครัวหมอกระต่ายอีกครั้ง เพราะยังไม่ได้คุยในรายละเอียด และหากจำเลยมีการยื่นอุทธรณ์ต่อก็พร้อมสู้
ส่วนคดีที่ศาลแพ่งได้ยื่นฟ้องไปแล้ว 144 ล้านบาท โดยยื่นฟ้องสิบตำรวจตรีนรวิชญ์ จำเลยที่ 1 / สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำเลยที่ 2 รวม 72 ล้านบาท ด้วยเหตุที่ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติพ่วงด้วยเพราะจำเลยที่ 1 ให้การว่าในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ไปนำส่งเอกสาร ซึ่งถือว่าอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ส่วนอีก 72 ล้านบาท โจทก์ได้ฟ้องกรุงเทพมหานครในฐานะเจ้าของพื้นที่ ฐานปล่อยปละละเลยเรื่องเครื่องหมายสัญลักษณ์การจราจรและระบบมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางถนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล โดยจำเลยได้ขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การ ศาลจึงเลื่อนสอบปากคำไปวันที่ 8 สิงหาคมนี้ เพื่อรอจำเลยยื่นคำให้การมาก่อน
ด้านนายสนทยา น้อยเจริญ ทนายความสิบตำรวจตรีนรวิชญ์ กล่าวว่า ขณะนี้ร้อยตำรวจตรีนิคม บัวดก พ่อของจำเลยอยู่ระหว่างการทำเรื่องขอประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ต่อไป โดยใช้ตำแหน่งในหน้าที่การงานและหลักทรัพย์จำนวนหนึ่ง ยื่นขออุทธรณ์เสนอบรรเทาโทษร้ายในสำนวนแล้ว
ทั้งนี้จากการได้พูดคุยกับจำเลย จำเลยยอมรับว่า รู้สึกเสียใจ และได้สารภาพมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ในส่วนคดีแพ่งก็ต้องต่อสู้ต่อไป ส่วนวงเงินที่ทางโจทก์ฟ้องนั้น เป็นสิทธิ์เรียกร้องของผู้เสียหายอยู่แล้ว แต่คงต้องไปพิจารณาด้วยเหตุและผลต่อไป