KEY :
- บทความนี้เป็น บทความพิเศษ (Guest Post) โดย คุณดุสิต ศรีสง่าโอฬาร กรรมการผู้จัดการบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS
- Bitcoin Conference 2022 จัดขึ้นที่เมืองไมอามี ในรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ โดยที่ผ่านมานายกเทศมนตรีเมืองไมอามี มีเป้าหมายที่ต้องการสนับสนุนให้เป็นเมืองแห่งคริปโตและบิทคอยน์
- ในงานนี้ได้มีการเปิดตัว Miami Bull รูปปั้นวัวกระทิงสีดำ ที่มีดวงตาเป็นเลเซอร์ สัญลักษณ์ของการท้าทายต่อรูปปั้นกระทิงดุ (Charging Bull) วอลสตรีท
- ในงานมีการสัมมนา จัดแสดงผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีของบิทคอยน์จำนวนมาก
- ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่เวทีหลักที่มีคนดังในวงการขึ้นมาแลกเปลี่ยนมุมมองด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ คริปโต และ DeFi
- สถาบันการเงินในปัจจุบันกำลังเสียฐานบริการให้กับ DeFi
- หน่วยงานรัฐฯ แม้แต่ในอเมริกาเองก็กลับลำ 180 องศาเพื่อมาให้ความสำคัญกับบิทคอยน์ และโลกแห่งคริปโตมากขึ้น
- และภายในปี 2030 นี้ ราคาบิทคอยน์ จะขึ้นไปถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมาจากสถานการณ์ของโควิด-19 ทำให้ไม่มีโอกาสในการเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อร่วมงานประชุมใหญ่ ๆ ที่สำคัญ จนกระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้ฤกษ์ออกเดินทาง โดยมีเป้าหมายคือเมืองไมอามี ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อไปร่วมงาน Bitcoin Conference 2022
ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงในช่วงเย็นของวันที่ 5 เม.ย. บรรยากาศที่สนามบินไมอามีผู้คนเดินทางเข้าเมืองคึกคักมากมาย โดยใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในการผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นเดินทางเข้าที่พักเพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าร่วมงาน Bitcoin Conference 2022 ในวันรุ่งขึ้น
…
The Miami Bull : สัญลักษณ์ของการท้าทายวอลสตรีท
งาน Bitcoin Conference 2022 จัดระหว่างวันที่ 6-9 เมษายน ที่ Miami Beach Conventional Center ซึ่งงานนี้ถือว่าเป็น The Biggest Bitcoin Event in The world โดยบัตรเข้างานมีให้เลือก 4 แบบ ตั้งแต่ Sound Money Pass ซึ่งมีไว้สำหรับเข้างาน Event ดนตรีวันสุดท้าย General Admission Pass, Industry Pass และ Whale Pass
ก่อนเริ่มงาน Bitcoin 2022 ฟรานซิส ซัวเรซ นายกเทศมนตรีเมืองไมอามี ได้มีการเปิดตัว Miami Bull ซึ่งเป็นรูปปั้นวัวสีดำ มีตาเป็นเลเซอร์สีแดง เพื่อเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของเมืองไมอามี ที่จะเดินหน้าสนับสนุนบิทคอย และเป็นการแสดงออกถึงการท้าทายต่อรูปปั้นกระทิงดุ (Charging Bull) แห่งวอลสตรีท ที่เป็นเหมือนศูนย์กลางทางการเงินและตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา
ในงาน Bitcoin Conference 2022 จะแบ่งเป็นส่วนของบูธต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ Bitcoin Ecosystem ทั้งหมด ตั้งแต่ Mining, Wallet, Investment ไปจนถึง Lightning Network และ NFT
แน่นอนว่าในฐานะตัวแทนเหมืองขุด Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยต้องเลือกเป็นบัตร Whale Pass โดยบัตรแบบ Whale Pass จะมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติมหลาย ๆ อย่าง เช่น การได้เข้าร่วม Session พิเศษที่จัดขึ้นเฉพาะ การบริการเรื่องของอาหารเครื่องดื่ม รถรับส่งระหว่าง Hall และที่น่าสนใจที่สุด คือ เรื่องของ Networking ที่ครั้งนี้ได้รู้จักคนในวงการ Bitcoin Ecosystem อีกจำนวนมาก
…
ซื้อบัตรด้วยบิทคอยน์
แน่นอนว่าการซื้อบัตรเข้างานนั้น ต้องจ่ายด้วย Bitcoin เพราะได้รับส่วนลด โดยสามารถจ่ายได้ผ่านทาง BTC Mainet หรือผ่านทาง Lighting Network ก็ได้ ซึ่งที่ผ่านมานั้นหนึ่งในประเด็นมักจะถูกใช้ในการ“แซะ” บิทคอยน์ นั่นคือความเร็วในการตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้น ว่ามีความล่าช้า และมีค่าธรรมเนียมที่แพง
แต่ในงานนี้มีการประกาศว่า ธุรกรรมจำนวนนับล้านรายการจะสามารถยืนยันผ่านระบบ Smart Contract ภายใน 1 วินาที และมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า ซึ่งบิทคอยน์จะกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของค่ายบัตรเครดิตยักษ์ใหญ่อีกด้วย
นอกจากนี้ บนเวที Bitcoin Conference 2022 ยังได้กล่าวว่า สกุลเงินหลักอย่างดอลล่าห์สหรัฐ กำลังจะกลายเป็นระเบิดลูกใหม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ธนบัตรที่เป็นกระดาษจะถูกมองข้ามไปอย่างไร้ค่า
Mining
สำหรับพื้นที่บริเวณ Mining จะเป็นพื้นที่แสดงเทคโนโลยีในการทำเหมืองบิทคอยน์ โดยบูธของเครื่องขุดที่ใหญ่ที่สุดหนีไม่พ้นของทาง Bitmain Technology งานนี้ยกเอา AntBox พร้อมกับ Cooling Tower มาแสดงไว้ในงานด้วย เลยได้มีโอกาสพูดคุยถึงแผนการขยายเพิ่มเครื่องขุด และธุรกิจที่เกี่ยวกับการ Support Mining Ecosystem ร่วมกัน
ในส่วนของ Mining Ecosystem ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Immersive Cooling, Hydro Cooling หรือแม้กระทั่งระบบการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติที่ได้ติดต่อกันไว้ก่อนหน้านี้ งานนี้ได้มาเจอกันตัวเป็น ๆ และเจรจารธุรกิจกันในงาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการสร้างความมั่นใจมากขึ้นด้วย รวมถึงยังเป็นโอกาสสำหรับ JTS ในการลงทุนในบริษัทเหล่านี้อีกเช่นกัน
โดยที่ผ่านมา มักจะมีคำกล่าวว่า การทำเหมืองบิทคอยน์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาภาวะโลกร้อน แต่นั่นเป็นเพียงคำกล่าวอ้างเดิม ๆ ซึ่งในงานนี้ มีการแสดงให้เห็นเทคโนโยลีการขุดเหมืองบิทคอยน์ที่มุ่งไปสู่แนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการขุดที่สูงขึ้น ความร้อนที่ลดน้อยลง และการใช้พลังงานทางเลือกต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ธนาคารกำลังเสียฐานบริการให้ DeFi
ในส่วนของ Conference ที่อัดแน่นตลอด 3 วัน ในงานนี้มีความน่าสนใจทุกเวที และมีเนื้อหาที่เข้มข้นอย่างมาก แต่ที่ดูจะเป็นประเด็นจุดสนใจของงานเลยก็คือที่ Satoshi Mainstage ในวันที่สองโดย Michael Saylor จาก MicroStrategy และ Cathie Wood จาก Ark Invest
โดย Cathie Wood ระบุว่า “ธนาคารกำลังเผชิญปัญหาใหญ่” จากการสูญเสียฐานของธุรกิจหลายอย่างให้กับคริปโต อย่าง DeFi ซึ่งเป็นระบบการเงินที่ไม่มีตัวกลางแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่กำลังกระจายลงไปยังผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลายอย่าง และการบริการนั้นเป็นในลักษณะ peer-to-peer ที่ไม่มีตัวกลาง และนั้นเป็นการทำให้สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมกลายเป็นอดีต
นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น มุมมองด้านการเมือง โดยมีการอ้างถึง Janet Yellen ที่ก่อนหน้านี้เคยให้ความเห็นต่อสาธารณะในมุมลบของ Bitcoin ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการฟอกเงิน แต่จากการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ที่ผ่านมาเร็ว ๆ นี้ กลายเป็นสนับสนุน เนื่องจากตลาดของ Crypto เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
“สิ่งที่เห็นในวันนี้ ต่างจากปีที่ผ่านมาแบบ 180 องศา”
ซึ่งเห็นได้จากการที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพิ่งออกคำสั่งผู้บริหารซึ่งมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องศึกษาเกี่ยวกับกฎระเบียบของสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย และที่ผ่านมา “ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาไม่เคยสั่งให้รัฐบาลยอมรับสินทรัพย์ประเภทใหม่” มาก่อน
…
Lighting Network คือส่วนเติมเต็มของบิทคอยน์
Lighting Network เป็นอีกประเด็นที่มีการพูดคุยกัน ซึ่งมีการเปรียบ Lighting Network เหมือนกับโครงสร้างของ Internet ถ้าคุณอยากทำธุรกรรมกับบริษัทอื่น ๆ ในอนาคต ซึ่งในตลาดโลกเราจะหนีไม่พ้น Bitcoin และ Lighting Network ซึ่งทางคุณ Cathie ก็เห็นด้วยว่า Lighting Network จะมาเติมเต็มในส่วนของการใช้เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน และเป็นจำนวนนับในการซื้อขาย นอกเหนือจากการเก็บรักษามูลค่าที่เราเห็นได้ชัดจาก Bitcoin อยู่แล้ว
ยังมีอีกหลาย session ที่น่าสนใจ รวมถึงประเด็นที่ว่า Cathie Wood ถึงทำนายว่าในปี 2030 ราคา Bitcoin จะไปถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2030 หรือไม่เกิน 8 ปีข้างหน้า
…
แต่ถ้าให้เล่ารายละเอียดงานทั้งหมดคงจะยาวเกินไปแน่ ๆ ฉะนั้นวันนี้ก็ถือว่าเป็นการเล่าเก็บตกบรรยากาศงาน Bitcoin Conference 2022 ที่ Miami มาฝากกัน เพราะในงานเวลาแนะนำตัวกันและบอกว่ามาจาก JTS มาจากประเทศไทย ทุกคนก็จะสนใจเป็นพิเศษกับสิ่งที่เราทำ กับเป้าหมายที่เราจะเป็น Bitcoin Mining Farm ที่ใหญ่ที่สุดใน APAC พร้อมกำลังขุด 1 ล้าน Terrahash/Second before next halving
ไว้มีโอกาสครั้งหน้าจะมาเขียนเล่าให้ฟังกันใหม่ครับ
