KEY :
- ก่อนหน้านี้ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปพยาบาลสาวที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ข้ามทางม้าแล้ว แต่ปรากฏว่ามี กระบะฝ่าสัญญาไฟแดง ไม่ยอมหยุดรถให้คนข้าม เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงพยาบาลย่านสวนลุม
- ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวและได้นำตัวผู้กระทำความผิด และรถคันก่อเหตุมาดำเนินคดีแล้ว
- เบื้องต้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดี 4 ข้อหา โดยจะส่งฟ้องภายในวันนี้
วันนี้ (30 มี.ค. 65) ที่ สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงความคืบหน้ากรณีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก “Ginhom Nakab” ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวีดีโอว่า !! เตือนภัยเรื่องการข้ามทางม้าลาย !! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนเช้า บริเวณหน้าโรงพยาบาลย่านสวนลุม เนื่องจากไฟทางข้ามม้าลายเป็นสีแดง แต่รถไม่หยุดให้ และคนที่ข้ามเป็นคุณพยาบาลที่กำลังตั้งครรภ์ อยู่ด้วย คิดดูนะครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์แบบนี้อีก #ใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังนะครับ “
ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฎตามคลิปวีดีโอว่ามีรถยนต์ฝ่าฝืน สัญญาณไฟบริเวณทางข้าม (ทางม้าลาย) โดยไม่หยุดให้หญิงกำลังตั้งครรภ์ เดินข้ามไปก่อน ซึ่งมีประชาชนทั่วไปให้ความสนใจและเผยแพรโพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมากนั้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ สน.ลุมพินี
โดย พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า วันนี้มาติดตามเรื่องของการดำเนินคดี จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวและได้นำตัวผู้กระทำความผิด และรถคันก่อเหตุมาดำเนินคดีแล้ว คือ นายวีรยุทธ จำปาราช เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งได้ยอมรับว่าเป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวจริง โดยขับมาจาก อ.สามพราน จ.นครปฐม เพื่อส่งอาหารสดให้กับโรงเรียนย่านสาทร ถนนศาลาแดง และกำลังมุ่งหน้าไปโรงเรียนบริเวณ ถนนสามเสนซอย 11 เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ นายวีรยุทธ ได้ก้มดูเส้นทางตามจีพีเอส(GPS)จากโทรศัพท์มือถือ จึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าบริเวณดังกล่าวเป็นทางข้ามทางม้าลาย และมีสัญญาณไฟจราจรสีแดง ประกอบกับไม่ชำนาญเส้นทาง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจสน. ลุมพินีจึงตรวจสอบเอกสารของรถยนต์ที่เกิดเหตุ พบว่า มีสถานะปกติ แต่ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของ นายวีรยุทธหมดอายุตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 จึงดำเนินคดีกับนายวีรยุทธ 4 ข้อหา ได้แก่ 1. ไม่หยุดรถให้คนข้ามถนนบริเวณทางข้าม 2.ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร 3. ขับรถโดยไมได้รับใบอนุญาต และ 4. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น โดย 3 ข้อหาแรก ได้ทำการเปรียบเทียบปรับไปข้อหาละ 1,000 บาท ส่วนข้อหา ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ซึ่งในข้อหาที่ 1-3 เจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับข้อกล่าวหาละ 1,000 บาท รวมเป็น 3,000 บาท ส่วนในข้อหาที่ 4 เจ้าหน้าที่จะดำเนินการร้องต่อศาลแขวงปทุมวันและจะส่งฟ้องภายในวันนี้
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.จิรสันต์ ยังกล่าวอีกว่า กรณีนี้สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำให้นึกถึงกรณีการเสียชีวิตของ คุณหมอกระต่าย เมื่อครั้งเกิดเหตุบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ จึงขอฝากประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน ขอให้ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร สัญญาณไฟจราจร เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติบนท้องถนนที่จะเกิดขึ้น
ภาพ : วิชาญ โพธิ