KEY :
- “แม่แตงโม” พร้อมทนายเดชา บุกวุฒิสภา ถอนเรื่องร้องเรียนสอบปมคดีแตงโม
- ระบุว่า จุดเริ่มต้นมาจากทนายคนเก่า รับบกพร่องไม่อ่านก่อนเซ็นเอกสาร
- นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงความไม่พอใจ “หมอพรทิพย์” ได้ให้ข้อมูลกับสื่อเผยผลชันสูตร ทำเกียรติตำรวจเสื่อม
- ปฏิเสธไม่รู้จัก “เต๊ะ” ส่วนตัวมาก่อน
…
วันนี้ (28 มี.ค. 65) ที่รัฐสภา นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของน.ส.ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ (แตงโม) นักแสดงสาวชื่อดังที่ตกเรือเสียชีวิต พร้อมด้วยนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายศูนย์ทนายคลายทุกข์ เดินทางมายื่นหนังสือขอให้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ถอนเรื่องการพิจารณาคำร้องการเสียชีวิตของแตงโม และขอให้ตรวจสอบการทำงานของกมธ.บางคนว่ากระทำการอันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 หรือไม่ โดยมีนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานกมธ.เป็นตัวแทนรับเรื่อง
ทั้งนี้นายสมชายได้อธิบายถึงขั้นตอนการดำเนินการของกมธ.ในการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน และยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบ และระบบ โดยที่ผ่านมานายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์ อดีตทนายความของนางภนิดา พร้อมด้วยน้ำตาล หลานสาวของนางภนิดา เป็นตัวแทนมายื่นเรื่อง เพื่อขอคำปรึกษาและความเป็นธรรมในการชันสูตรศพแตงโม และการพิสูจน์หลักฐานต่างๆในคดี โดยตนจะรับเรื่องในวันนี้ เพื่อนำเข้าหารือในที่ประชุมกมธ.ในวันจันทร์ที่ 4 เม.ย.นี้
ด้านนางภนิดา ได้พยายามสอบถามถึงการทำหน้าที่ของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่ออกมาเปิดเผยถึงผลการชันสูตรร่างของแตงโม
โดยนางภนิดาได้ขอให้นายสมชายห้ามไม่ให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ออกมาให้ข่าวได้หรือไม่ โดยนายสมชาย กล่าวชี้แจงว่า ตนไม่สามารถบอกให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์หยุดดำเนินการได้ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ในฐานะที่เป็นกมธ.
ขณะที่นายเดชา กล่าวว่า นางภนิดามีความกังวล เนื่องจากมีกมธ.บางคนแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยออกมาให้สัมภาษณ์ดิสเครดิตตำรวจและเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานบ่อยมากด้วยการก้าวก่ายการทำงาน และไม่ให้เกียรติตำรวจ จนทำให้ตำรวจถูกด่า ทั้งยังเสนอสั่งให้สอบผู้เชี่ยวชาญ และเรื่องการนำเข้าเครื่องจับเท็จที่จะอาจเกิดผลเสียในทางคดีก็ได้ เหมือนหยามเกียรติศักดิ์ศรีของตำรวจ โดยเฉพาะการตำหนิการเก็บเรือของกลางทำให้ตำรวจเสียหน้า
ซึ่งคุณแม่ให้กมธ.บางคนไปร่วมสังเกตการณ์ผ่าชันสูตร ไม่ใช่ให้ออกมาแถลงข่าวดิสเครดิตการทำงานของแพทย์นิติเวช ทั้งที่ข้อมูลไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย อีกทั้งยังมีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่ามีทนายดังต่อสายว่ามีตำรวจผู้ใหญ่ไม่ปลื้มเข้ามายุ่งคดีแตงโม
วันนี้นางภนิดาจึงมาขอยกเลิกการมอบอำนาจที่ให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ และนายศตวรรษ เศรษฐกร หรือเต๊ะ ร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรศพโดยไม่อนุญาตให้เข้าร่วมสังเกตการณ์การชันสูตรพลิกศพรอบที่ 2 และขอไม่ให้นำผลการชันสูตรมาแถลงข่าวต่อสาธารณะอีก
อย่างไรก็ตาม นางภนิดา ยังกล่าวอีกว่า ทนายคนเก่าเพิ่งทำงานได้ 2 ปี ไม่รู้จะเริ่มที่ไหน เลยมายื่นเรื่องที่กมธ.และนำเอกสารมาให้ตนเซ็นชื่อร่วมกับเอกสารอื่น โดยที่ตนไม่ได้อ่านอย่างละเอียด ถือความบกพร่องของตนด้วย จากนั้นแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ก็เริ่มทำงาน โดยที่การผ่าศพครั้งที่ 2 นั้นตนไม่ทราบเลย และการให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมามีการพูดถึงสภาพศพแตงโม ซึ่งตนรู้สึกไม่พอใจว่าเหตุใดนำความลับสภาพศพของแตงโมมาพูดออกสื่อได้
ยืนยันว่าตนไว้ใจตำรวจอยู่แล้ว จะกี่เปอร์เซ็นต์ก็ไว้ใจ และที่มาหากมธ.เพราะทนายคนเก่าพามา ซึ่งรู้สึกเป็นห่วงและเห็นใจตำรวจที่ทำงานเหนื่อย
ทั้งนี้ยืนยันตนไม่รู้จักกับนายศตวรรษเป็นการส่วนตัว ไม่ใช่ญาติทางพ่อและแม่ เพียงแต่อยู่ที่โบสถ์ ขณะที่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ได้โทรศัพท์มาขอพบส่วนตัว ซึ่งไม่ทราบว่าจะคุยอะไร แต่ตนไม่เคยมาพบ และเห็นว่าขณะนี้เรื่องนิติเวชสำหรับแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์จบแล้ว ไม่ต้องตรวจแล้ว เรื่องเรือก็จบแล้ว ไม่มีงานอะไรให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ทำอีกแล้ว ส่วนจะนัดเคลียร์ใจกันหรือไม่นั้น ถามว่าทำไมต้องนัดคุย เพราะในวันนี้ก็ชัดเจน ตนไม่มีเรื่องพูดกับแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์แล้ว ตนไม่รู้จักส่วนตัว แต่ชอบการทำงานที่ผ่าน แต่คิดว่าตอนนี้ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วอย่างไรก็ตามยืนยันว่ากมธ.ยังทำงานต่อได้
ภาพ – วิชาญ โพธิ