นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อโกหกแล้ว ต้องโกหกตลอดไป จากประสบการณ์ที่เคยมีคดีกว่า 20 คดี “การพูดความจริง” เป็นสิ่งที่ดีที่สุด หากเริ่มต้นด้วยการโกหกในชั้นตำรวจ ก็ต้องโกหกต่อไปในชั้นอัยการ ศาล คดีที่มีผู้เกี่ยวข้องเกิน 2 คน หากเลือกจะโกหกแล้ว ก็ต้องโกหกให้เหมือนกัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะจะต้องมีคนใดคนหนึ่ง “หลุด” บางคดีมี 5 คน ตอนแรกก็ร่วมมือเตี๊ยมกันโกหกอย่างดี แต่พอตอนหลังเห็นท่าไม่ดี จะมีคนพูดเพื่อเอาตัวรอดตามสันดานของคนมีคดีที่มัก “โทษคนตาย” ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด
นายชูวิทย์ ชี้ว่า แก๊ง 5 คน ไปปรึกษาขอคำแนะนำจาก “ผู้รู้” ทำให้ได้คำโกหกที่ไม่สมเหตุสมผล ไม่มีตรรกะ ตอนนี้ความซวยใกล้จะมาเยือน เพราะหากมีใครคนใดคนหนึ่งกลัวจนยอมพูด “ความจริง” ขึ้นมาจากเดิมที่จะไม่ติดคุกเพราะเป็นแค่คดีประมาท คราวนี้จะติดคุกเพราะข้อหาให้การเท็จ นายชูวิทย์แนะนำให้ใช้สุภาษิตของตัวเองว่า “สู้ติดแน่ แพ้ติดนาน สารภาพติดพอประมาณ”