คัดลอก URL แล้ว
ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันเอาผิดผู้บุกรุก “เขาแดง” เผย ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันเอาผิดผู้บุกรุก “เขาแดง” เผย ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก

สืบเนื่องจากกรณีพบผู้บุกรุกโบราณสถานเขาแดง จ.สงขลา ซึ่งก่อนหน้านี้ ออกหมายจับผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน และมีข้อมูลว่า ผู้เกี่ยวข้องเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยืนยัน คดีมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งทางสำนักศิลปากรได้แจ้งความดำเนินคดีแยกเป็น 3 คดี ได้แก่ คดีแรกคือจุดที่ทำการขุดตัดไม้ทำถนนบริเวณหัวเขาแดงระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร คดีที่ 2 คือที่ ภูเขาน้อย ด้านหลักป้อมเมืองเก่าสงขลา และคดีที่ 3 คือการทุบทำลาย โบราณสถานเจดีย์องค์ดำ 2 จุด บนยอดเขาแดง

โดยคดีแรก ได้มีการแจ้งข้อหานายสมบัติ เหาตะวณิช ไปแล้ว 1คน ทั้งความผิดฐานบุกรุกโบราณสถาน และ แผ้วถางทำลายป่า ตามพรบ.ป่าไม้ ซึ่งผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ส่วนคดีที่ 2 ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว เตรียมเสนอศาลขออนุมัติหมายจับ ส่วนคดีทุบทำลายเจดีย์องค์ดำ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับคดีที่1 และ 2 หรือไม่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยอมรับว่า แต่ละคดี การสืบสวนค่อนข้างยาก

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังยืนยันว่า ไม่รู้ว่าคำนิยามของผู้มีอิทธิพลคืออะไร รู้เพียงแต่ในฐานะข้าราชการต้องทำเต็มที่ ใครทำผิดต้องได้รับโทษตามตามกระบวนการยุติธรรม โดยได้นำเรื่องนี้รายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึง ผู้บริหารกระทรวงทั้งหมดแล้ว

ขณะที่ตัวแทนเครือข่ายประชาชนในจังหวัดสงขลา รวมถึงตัวแทนนักศึกษา 3 สถาบัน รวมตัวกันนำพระเครื่อง ดอกไม้ และกระเช้า เข้าให้กำลังใจ นายพงศ์ธันว์ สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา และเจ้าหน้าที่ หลังเข้าแจ้งความกลุ่มผู้บุกรุก จนถูกผู้มีอิทธิพลข่มขู่หลายครั้ง พร้อมเรียกร้องให้เร่งหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และต้องเร่งฟื้นฟูพื้นที่ถูกทำลาย เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาดินสไลด์และกระทบต่อการขับเคลื่อนให้เมืองเก่าสงขลาเป็นเมืองมรดกโลก ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า การบุกรุกพื้นที่โบราณสถานไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น

สำหรับคดีบุกรุกโบราณสถานเขาแดง ตำรวจสถานีภูธรสิงหนคร แจ้งข้อหาบุกรุกต่อผู้ว่าจ้างรถแบคโฮ ที่ยอมรับสารภาพและอ้างว่าต้องการทำถนนเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่จะขึ้นไปยังโบราณสถาน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง