คัดลอก URL แล้ว
ปล่อยตัว “เพนกวิน” พ้นเรือนจำ เจ้าตัว เผย ชีวิตในเรือนจำทำให้โตเป็นผู้ใหญ่-เคารพเงื่อนไขศาล

ปล่อยตัว “เพนกวิน” พ้นเรือนจำ เจ้าตัว เผย ชีวิตในเรือนจำทำให้โตเป็นผู้ใหญ่-เคารพเงื่อนไขศาล

วันนี้ 24 กุมภาพันธ์ 2565 หลังศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร และผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 โดยตีหลักทรัพย์เป็นเงินสด 2 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข 6 ข้อ

ต่อมา เมื่อเวลา 19.15 น. นายพริษฐ์ ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ หลังถูกคุมขังอยู่เป็นเวลา 6 เดือน 15 วัน โดยมีนางสุรีรัตน ชิวารักษ์ แม่ของนายพริษฐ์ และ มวลชนกลุ่มราษฎร มารอต้อนรับและให้กำลังใจ

นายพริษฐ์ เปิดเผยว่า ขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ วันนี้รู้สึกมีอิสระภาพ และรู้สึกได้รับน้ำใจจากมวลชน โดยเฉพาะน้ำใจของมวลชนที่ได้ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มาถอนอายัดตนเอง และขอบคุณเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ที่มีการปฏิบัติกับตนเองอย่างให้เกียรติ และวันนี้ตนเองยินดีมากที่ได้กลับมายืนข้างครอบครัวในสายเลือดและครอบครัวในอุดมการณ์ และการต่อสู้ของราษฎรจะดำเนินต่อไป

ทั้งนี้ส่วนตัวเคารพเงื่อนไขศาล แต่มองว่า เงื่อนไขศาลคงไม่สามารถสกัดกั้นความคิดเห็นของประชาชนได้ และขอให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของประชาชนและอุดมการณ์ พร้อมทั้งขอฝากไว้ด้วยว่า วันนี้ยังมีนักโทษการเมืองอีกหลายคน รวมถึง นายอานนท์ นำภา ที่ยังอยู่ภายในเรือนจำ และอยากขอบคุณชีวิตในเรือนจำ ที่ทำให้ตนเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้นด้วย

ขณะที่ นางสุรีรัตน์ แม่เพนกวิน บอกว่า วันนี้รู้สึกโล่งอีกเปราะหนึ่งที่เพนกวินได้ออกมา และขอให้กำลังใจทุกคนที่ยังอยู่ในเรือนจำ และขอให้ทุกคนได้กลับออกมากลับสู่อ้อมอกพ่อแม่โดยไว

โดยการปล่อยตัวครั้งนี้ ศาลได้พิเคราะห์จากเอกสารคำร้อง และเอกสารจากคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ได้ออกรับรองว่ากำลังศึกษาอยู่ และเพื่อให้โอกาสจำเลยได้ออกไปศึกษาต่อเนื่องจากใกล้ถึงเวลาสอบซึ่งมีกำหนดเวลา 3 เดือนและกำหนดเงื่อนไข 6 ข้อ คือ

ห้ามจําเลยทำกิจกรรมหรือกระทำการใด ๆ อันจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียหรือด้อยค่า ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันศาลในทุกด้าน , ห้ามกระทําการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางกระบวนพิจารณาคดีของศาล , ห้ามโพสต์ข้อความปลุกปั่นในสื่อโซเชียลมีเดีย หรือเข้าร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง , ห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 18.00 น. ถึงเวลา 06.00 น.ของวันใหม่เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาลหรือได้รับอนุญาตจากศาล , ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ EM เพื่อจำกัดระยะเวลาเดินทาง และศาลมีหนังสือแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบด้วย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง