เพจกู้ชีพ กู้ภัย อบต.ป่ายุบใน จ.ระยอง โพสต์ภาพ และข้อความ เพื่อเตือนภัยหลังเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยหญิง อายุ 47 ปี ชาวบ้าน ต.ป่ายุบใน ต. อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ที่มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และอาเจียน ก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาลวังจันทร์
ประเด็นสำคัญในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไปพบเศษบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หกกระจายเกลื่อนพื้น หลังผู้ป่วยรายนี้ได้ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกิน แต่พอกินเข้าไปแล้วก็มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และอาเจียน เมื่อตรวจสอบดูพบว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จที่ผู้ป่วยกินเป็นแบบถ้วยร้อน ที่จะมีสารเคมีสำหรับทำความร้อนเพื่ออุ่นบะหมี่ใส่มาด้วย
อย่างไรก็ตามในวันนี้ หญิงรายนี้ได้กลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว หลังคุณหมอให้ยามาจำนวนหนึ่งมากินเพื่อลดอาการปวดท้อง จากการสอบถามผู้ป่วยเล่าว่า สาเหตุที่เทผงเคมีลงไปในบะหมี่สำเร็จรูป เพราะคิดว่า เป็นผงปรุงรส เมื่อกินเข้าไปเพียง 2 ช้อน ก็เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน ที่ท้องอย่างรุนแรง
ซึ่งประเด็นนี้ ทางอาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กฯ พูดถึงเรื่องนี้โดยสรุปว่า “ห้ามกิน “ผงสารเคมีที่ทำให้บะหมี่ถ้วย ร้อนขึ้น” เด็ดขาด
พร้อมอธิบายว่าบะหมี่ถ้วยกึ่งสำเร็จรูปดังกล่าว และผลิตภัณฑ์อาหารอุ่นร้อนด้วยตัวเองอื่นๆ จะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Self heating packaging หรือ Flameless Ration Heaters (FRH) คือ บรรจุภัณฑ์ที่สามารถอุ่นร้อนได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้เปลวไฟ แต่อาศัยการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีแทน
รูปแบบปฏิกิริยาเคมีที่ใช้ เพื่อให้เกิดการคายความร้อนต่ออาหาร จะมีทั้งแบบที่ใช้ “เหล็กกับแมกนีเซียม และน้ำเกลือ” โดยน้ำเกลือจะซึมเข้าไปผ่านซองที่บรรจุสารเคมี และทำปฏิกิริยาทำให้เกิดความร้อน ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมใช้ในกองทัพ และแบบที่ใช้สารแคลเซียมออกไซด์ (CaO) หรือปูนขาว และสารประกอบ Mg-Fe (แมกนีเซียม-เหล็ก) ทำปฏิกิริยากับน้ำเปล่า เกิดความร้อน ซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่นและจีน ดังเช่น บะหมี่ถ้วยกึ่งสำเร็จรูปดังกล่าว
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม ก็ห้ามนำมาบริโภค เพราะอันตราย มีความเป็นพิษสูง ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้