สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เตือนผู้บริโภคเตรียมรับมือราคาอาหารทั่วโลกปีนี้จะสูงขึ้น หลังต้นทุนการผลิต ทั้งราคาสินค้าเกษตร ราคาพลังงาน พุ่งสูงหลายเท่าตัว ทำให้ไปกดกำลังซื้อให้หดตัว พร้อมกับเสนอรัฐบาลเปิดทางให้นำเข้าวัตถุดิบจากประเทศ แก้ปัญหาวัตถุดิบในประเทศไม่เพียงพอ
ปัจจุบันต้นทุนการผลิตในโลกปรับสูงขึ้นมาก หากเทียบกับช่วงก่อนการระบาดโรคโควิด 19 โดย ข้อมูลจากสถาบันอาหาร พบว่า ภาพรวมราคาอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก ปรับขึ้นมาแล้ว ร้อยละ 32
โดยราคาน้ำมันพืชปรับขึ้นร้อยละ 98 แผ่นเหล็กเคลือบดีบุก ปรับขึ้นร้อยละ 70 น้ำตาล ขึ้นร้อยละ 39 เนื้อสัตว์ ขึ้นร้อยละ 8 ปัจจัยหลักมาจากราคาวัตถุดิบการเกษตร ราคาพลังงาน และปีนี้แนวโน้มราคาอาหารโลก จะสูงขึ้นอีกร้อยละ 3.5
รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าฯ ระบุว่า ราคาอาหารทั่วโลกจะสูงขึ้นแน่นอน เพราะต้นทุนการผลิตหลายๆ อย่างสูงขึ้นมากแล้ว รวมถึงยังมีต้นทุนแฝงจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ค่าแรงงานที่สูงขึ้นอัตโมมัติ จากการขาดแคลนแรงงาน
แต่ภาคเอกชน ยืนยันว่า จะพยายามตรึงราคาและลดต้นทุนให้ได้นานที่สุด และอยากขอให้ภาครัฐดูแลต้นทุนวัตถุดิบ ฟื้นกำลังซื้อ ดูแลค่าระวางเรือ ค่าเงินบาท และควรเปิดให้นำเข้าวัตถุดิบ เพื่อใช้แปรรูปและส่งออก ในระยะเวลาช่วงสั้น และมีโควต้า เพื่อดูแลราคาอาหารในประเทศ และช่วยผู้ส่งออกอาหารด้วย
นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ยังมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะดูแลราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท แม้ว่าตั้งแต่ต้นปี 2565 ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวขึ้นแล้วถึง 6 ครั้ง
กระทรวงพลังงาน จะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน หรือ โอเปค ยังไม่สามารถผลิตน้ำมันดิบได้เท่ากับความต้องการของตลาดและบางประเทศยังมีปัญหาความไม่สงบภายใน