วันนี้ (13 ม.ค.65) ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ได้พาผู้เสียหาย หรือ นายฮาซัน รักหอม อายุ 27 ปี พร้อมครอบครัว เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางตำรวจ โดยมีพันตำรวจเอกอาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผู้กำกับการ สภ.สำโรงเหนือ และตำรวจอีก 5-6 นาย ออกมาต้อนรับ ก่อนพาเข้าห้องประชุม
ทั้ง 2 ฝ่ายได้พูดคุยไกล่เกลี่ยกันกว่า 1 ชั่วโมง โดยผู้กำกับการ สภ.สำโรงเหนือ ได้แสดงความจริงใจ ยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมยืนยันจะดูแลและเยียวยาผู้เสียหายอย่างดีที่สุด
นายฮาซัน เปิดเผยว่า อยากให้ตำรวจใช้ดุลยพินิจตรวจดูของกลางให้มากกว่านี้ เพราะตนพยายามอ้อนวอนขอร้อง แต่ทางตำรวจปฎิเสธทุกครั้ง และยังได้ก้มลงไปกราบแล้ว แต่กลับถูกเตะเข้าที่หน้า 1 ครั้ง ตนจึงอยากถามว่า “ทำไมถึงกล้าทำกับผมขนาดนี้” ยอมรับว่าเสียความรู้สึกและยังฝังใจถึงทุกวันนี้
ด้าน พ.ต.อ.อาทิตย์ ระบุว่า ได้รับทราบและเข้าใจความรู้สึกของผู้เสียหายและครอบครัว เบื้องต้นเมื่อวานนี้ได้เข้าไปมอบกระเช้าให้กับครอบครัวของผู้เสียหายแสดงความรับผิดชอบ และจะถอดบทเรียนเรื่องนี้กลับไปแก้ไข ทั้งนี้อยากขอโทษครอบครัวผู้เสียหายอีกครั้ง
ขณะที่แม่และพี่สาวของผู้เสียหาย ยืนยัน ไม่ติดใจเอาความกับทางตำรวจแล้ว เพราะตำรวจคือที่พึ่งของประชาชนแต่อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ในการจับกุมยาเสพติดค่อไป
ส่วนความคืบหน้าในการเอาผิดตำรวจที่ปฏิบัติงาน ด้าน พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ ได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยคาดว่าต้องขอเวลาให้คณะกรรมการได้ทำงานสักระยะหนึ่ง หากว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ก็ต้องมีการลงทัณฑ์ตามระเบียบ นอกจากนี้ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้เซ็นคำสั่งให้ ร.ต.อ.เอกนรินทร์ รุ่งโรจน์ รอง สวป.สภ.สำโรงเหนือ , ร.ต.อ.สุรยุทธ พึ่งคำ รอง สวป.สภ.สำโรงเหนือ , ส.ต.อ.กรวิทย์ วิศรีสิทธิ์ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.สำโรงเหนือ และ ส.ต.ต.สันติ โยธมาศ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.สำโรงเหนือ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดยขาดจากตำแหน่งและหน้าที่เดิม ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.65 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง