จากเหตุการณ์ที่มีกลุ่มวัยรุ่นนับสิบรายนัดหมายยกพวกก่อเหตุทะเลาะวิวาทพร้อมกับมีการขว้างปาวัตถุคล้ายระเบิดใส่กัน เมื่อช่วงดึกของวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา บริเวณทางลงสะพานข้ามถนนราชพฤกษ์ ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งมีผู้เห็นเหตุการณ์สามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้นั้น
ความคืบหน้าในคดีดังกล่าว เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 7 ม.ค.65 ที่ห้องสืบสวน สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี นายป็อป (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ซึ่ง เป็นพ่อของกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุรายหนึ่งได้ติดต่อกับ พ.ต.อ.นภธร วาชัยยุง ผกก.สภ.บางศรีเมือง และ พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รองผกก.สส.สภ.บางศรีเมือง เพื่อนำตัวนายเปอร์ (นามสมมุติ ) อายุ 16 ปี ลูกชายเข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมกับเพื่อนในกลุ่มที่รวมกันก่อเหตุตามคลิปที่ปรากฏอีกจำนวน 10 คน คือ นายปอร์ อายุ 17 ปี, นายโต้ง อายุ 16 ปี, นายซัน อายุ 15 ปี, นายนิว อายุ 16 ปี, นายโอเว่น อายุ 18 ปี, นายพุ อายุ 19 ปี, นายแบงค์ อายุ 18 ปี นายกาย อายุ 18 ปี, นายเมฆ อายุ 17 ปี และนายปาล์ม อายุ 14 ปี โดยเยาวชนทั้งหมดให้การยอมรับว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุในคลิปจริง
จากการสอบถาม นายเปอร์ อายุ 16 ปี หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ตนกับกลุ่มคู่กรณีมีปัญหาบาดหมางกันเรื่องจีบผู้หญิง ต่อมากลุ่มคู่กรณีได้ท้าทายและนัดกลุ่มตนผ่านโซเซียลให้มาเจอกันที่จุดดังกล่าว ตนกับพวกจึงได้รวมตัวกันขี่รถ จยย.ไปตามที่กลุ่มคู่กรณีนัดหมายมา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุจึงได้จอดรถ จยย.รอกันสักพัก ก็ถูกกลุ่มคู่กรณีเปิดฉากปาระเบิดปิงปองและยิงปืนใส่ตามมา กลุ่มตนมีอาวุธเป็นมีด ท่อนเหล็ก และประทัดลูกบอลจึงได้ขว้างตอบโต้กลับตามคลิปเหตุการณ์
ด้านนายป็อป อายุ 39 ปี บิดาของเยาวชนในกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุกล่าวว่า เมื่อตอนเช้าลูกสาวได้โทรบอกตนว่ามีภาพคลิปเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นยกพวกปะทะขว้างประทัดใส่กันเมื่อพี่ชาย ตนจึงได้รีบขับรถกลับบ้านเพื่อสอบถามลูกชายซึ่งในตอนแรกเขาก็ไม่อยากตอบ ก่อนจะยอมรับในเวลาต่อมา ตนจึงได้ให้ลูกชายติดต่อให้กลุ่มเพื่อนทั้งหมดที่อยู่ในคลิปเหตุการณ์มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมอบตัว ตนอยากจะเตือนบอกเด็กวัยรุ่นยุคนี้ว่าอย่าไปใช้ความรุนแรงกันเลย มีเรื่องอื่นให้ทำอีกมาก ไปทำแบบนี้จะไปทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน และถ้าเกิดเป็นพ่อแม่ตัวเองผ่านไปแล้วถูกลูกหลงจากระเบิดจะทำยังไง ไม่ได้เฉพาะตัวเองที่เดือดร้อน คนอื่นๆก็เดือดร้อนตามไปด้วย ตนเองรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะปกติตนสอนลูกทุกวันให้พยายามหลีกเลี่ยงเรื่องประมาณนี้เนื่องจากเขาเรียนสายอาชีวะ โตไปเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องดีเลย แต่ก็เข้าใจว่าวัยรุ่นคึกคะนองมันควบคุมทุกเวลาทุกโอกาสไม่ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้สอบถามรายละเอียดเหตุการณ์จากเด็กทั้ง 11 คน โดยมีผู้ปกครองร่วมรับฟังด้วย จึงได้ทำประวัติเยาวชนทั้งหมด ก่อนจะปล่อยตัวกลับบ้านเพื่อนัดหมายให้มาสอบปากคำใหม่พร้อมกับสหวิชาชีพ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป