นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ส.ส. อุบลราชธานี และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลจะให้ธกส. จ่ายเงินค่าประกันรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในวันที่ 9 -14 ธันวาคม นี้ ก็อยากให้ดำเนินการโดยเร็วและต้องจ่ายให้ทั่วถึง อย่าให้เกิดปัญหาอีก ซึ่งการจ่ายเงินประกันรายได้นี้พลเอกประยุทธ์ควรดำเนินการนานแล้ว ไม่ใช่ปล่อยให้ชาวนาเดือดร้อนกันสุดๆ และต้องออกมาเรียกร้องถึงคิดจะชำระ อีกทั้งต้องไปขยายเพดานเงินกู้ก่อนจึงมาชำระได้ แสดงว่าไม่ได้เตรียมการไว้ก่อนเลย เหมือนไม่เห็นความลำบากของชาวนาอยู่ในความคิดแต่แรก จึงเพิ่งจะมากู้เพื่อชำระเงินให้ชาวนา ซึ่งตอนนี้ชาวนาลำบากกันอย่างมาก และคาดหวังว่าจะได้เงินประกันรายได้นี้มาประทังชีวิตและใช้หนี้บางส่วน
อย่างไรก็ตาม แม้จะได้เงินประกันรายได้มา แต่ชาวนาก็ยังจะลำบากอยู่ ทั้งนี้เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ดูแลชาวนาน้อยมาก หรือ แทบไม่ดูแลเลย ชาวนาต่างมีหนี้สินสะสมกันเป็นจำนวนมาก ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ อีกทั้งปัจจุบันชาวนาต้องประสบก้บราคาปุ๋ยที่แพง ทำให้ซื้อปุ๋ยได้น้อยลง และใส่ปุ๋ยในการปลูกข้าวน้อยลง เลยทำให้ผลผลิตต่อไร่ที่ต่ำอยู่แล้ว ยิ่งต่ำลงอีก ต้นทุนของข้าวต่อกิโลกลับสูงขึ้น แถมราคาข้าวก็ยังตกต่ำ เป็นเหมือนผีซ้ำด้ำพลอย ขาดทุนกันเป็นจำนวนมาก หนี้เดิมก็ยังจ่ายไม่ไหว ต้องมาสร้างหนี้ใหม่อีก ทำให้ลำบากกันอย่างแสนสาหัส
จากการสอบถามผู้ส่งออกข้าวพบว่าการส่งออกข้าวไทยมีแนวโน้มดีขึ้น ผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทของไทยที่อ่อนตัวลง จากเศรษฐกิจไทยที่ทรุดลง ทำให้สามารถแข่งขันราคากับประเทศคู่แข่งได้ แต่ยังประสบปัญหาเรื่องโลจิสติกส์ เพราะขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และ ค่าระวางเรือที่สูง อีกทั้งยังหาได้เรือขนส่งได้ยาก ซึ่งเป็นอุปสรรคของการส่งออก และค่าระวางเรือที่แพงทำให้เพิ่มต้นทุนของราคาข้าวด้วย ดังนั้นพลเอกประยุทธ์จะต้องหาทางแก้ไขในเรื่องนี้ด้วย
การแก้ปัญหาเรื่องข้าวและการช่วยเหลือชาวนา เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องรู้จริงเพื่อจะต้องแก้ไขทั้งระบบ ตั้งแต่เรื่อง การพัฒนาระบบชลประทาน การพัฒนาพันธุ์ข้าว ราคาปุ๋ยที่แพง ประสิทธิภาพการผลิตที่ต่ำ ราคาผลผลิตที่ตกต่ำ หนี้สินของชาวนาที่มาก การแข่งขันกับประเทศคู่แข่งในตลาดโลก การขนส่งทางเรือที่ขาดแคลนและค่าระวางเรือที่แพง ฯลฯ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ไม่ได้เข้าไปปรับปรุงแก้ไขเลยตั้งแต่เข้าบริหารประเทศ และอาจจะไม่มีความรู้ความเข้าใจเลยด้วยซ้ำไป ชาวนาไทยถึงได้ลำบากกันอย่างมาก
ปัญหาของชาวนาที่มีประชากรกว่าสิบล้านคน จะยิ่งตอกย้ำความเหลื่อมล้ำในไทย เพราะตั้งแต่พลเอกประยุทธ์เข้าบริหารประเทศ ชาวนามีแต่จะจนลงเรื่อยๆ เพราะ แนวทางการบริหารของพลเอกประยุทธ์ได้ เพิ่มรายจ่าย ลดรายได้ และทำลายโอกาสของชาวนาทั้งหมด จึงทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ถ้าหลักคิดของพลเอกประยุทธ์ที่บอกว่าคนรวยใช้ทางด่วน คนจนก็วิ่งข้างล่าง ถือเป็นความเท่าเทียม ชาวนาไทยก็คงต้อง โง่ จน เจ็บ และทนไป ถนนท้องถิ่นห่างไกลไม่เคยได้รับการเหลียวแล อปท.มีถนนในการดูแลมากแต่กลับได้งบประมาณน้อย ส่วนเจ้าสัวที่อยู่ข้างตัวพลเอกประยุทธ์ก็จะรวยเอาๆ ทั้งค้าข้าว ทั้งค้าปุ๋ย ฯลฯ ก็น่าจะเป็นความเท่าเทียมในแนวคิดของพลเอกประยุทธ์เช่นเดียวกัน ซึ่งชาวนาไทยก็คงจะหมดโอกาสในการมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หากพลเอกประยุทธ์ยังบริหารประเทศต่อไป ดังนั้นพลเอกประยุทธ์น่าจะต้องรู้ตัวได้แล้ว