นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาพบปะสมาชิกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เพื่อประชุมหารือเรื่องปัจจัยการผลิตและติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ที่ชุมชนหมู่ 6 ก้าวหน้า แขวงคลอง 12 เขตหนองจอกกรุงเทพมหานคร โดยมีนายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และคณะตัวแทนชาวนาทั่วประเทศที่มาจากทุกภาคร่วมหารือ
โดยนายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวขอบคุณนายจุรินทร์ในฐานะผู้ดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกร และบอกว่าชาวนาพอใจมาก โครงการนี้ไม่มีการทุจริตทำให้ยั่งยืนเพราะเงินที่ออกจากรัฐบาลยิงตรงเข้าเกษตรกรโดยตรง และขอขอบพระคุณด้วยที่เดินทางมาที่นาหนองจอกวันนี้ นายปราโมทย์กล่าวด้วยว่าได้ทำงานร่วมกันมาเข้าสู่ปีที่3 โครงการนี้ช่วยชาวนาได้มากในภาวะที่ราคาข้าวตกก็ยังมีการชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกรขณะเดียวกันก็มีมาตรการเสริมเพื่อยกระดับราคาให้
ด้านนายธีรสินทร์ ธนชวโรจน์ เลขาธิการสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า โครงการประกันรายได้ เกษตรกรที่เข้าร่วมได้รับผลประโยชน์ โดยสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยขอขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยเหลือ โครงการประกันรายได้และโครงการคู่ขนานมาอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับและตอบสนองความต้องการของเกษตรกรมากที่สุด จนมาถึงปีที่ 3 แม้จะมีติดขัดบางประการอยู่บ้าง แต่สมาคมฯเชื่อมั่นว่ารัฐบาลต้องฝ่าวิกฤติไปให้ได้ สืบเนื่องจากพิษภัยทั้งโควิดและเศรษฐกิจโลกกดดันราคาสินค้าเกษตร ดันต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ดังนั้นจึงขอบคุณท่านรองนายกฯจุรินทร์ที่เข้ามารับฟังและช่วยผลักดันโครงการประกันรายได้ข้าวและมาตรการคู่ขนานให้มีความพัฒนามากขึ้น จากนั้นเลขาสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยได้นำข้อสรุปจากชาวนาในเครือข่ายของสมาคมยื่นให้รองนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อเสนอทางด้านมาตรการเสริมทั้งการดูแลคูปองลดราคาปุ๋ย การใช้คูปองช่วยด้านราคาน้ำมันสำหรับเกษตรกรรม เรื่องพัฒนาพันธุ์ข้าว การเพิ่มผลิตภัณฑ์ข้าวเปลือกไปใช้เป็นอาหารสัตว์และอื่นๆ
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ได้เปิดเผยต่อชาวนาว่ามีข่าวดีสัปดาห์หน้าที่ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอังคารหน้านี้ จะได้เคาะเกี่ยวกับงบประมาณดูแลเกษตรกรเพิ่มเติมโดยหลังจากจ่ายส่วนต่างไป 2 งวดและงวด 3 บางส่วนไปแล้ว จากนั้นในส่วนที่เหลือเมื่อราคาข้าวยังไม่ขึ้น ทางรัฐบาลได้มีการเพิ่มเพดานด้านการเงินการคลังมาตรา 28 ทั้งนี้เพื่อช่วยชาวนาและเกษตรกร อย่างไรก็ตามรัฐบาลเดินหน้านโยบายและต้องได้การชดเชยส่วนต่างตามที่นโยบายรัฐบาลดำเนินมาและเดินหน้าต่อไปในปีที่ 3 และโครงการประกันรายได้เกษตรกรนั้นราคาพืชผลเกษตรตัวอื่นดีหมด เช่น ผลไม้ราคาดีมาก ส่วนยางพารา ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลังไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง เพราะราคาเกินจากรายได้ที่ประกันไว้แล้วไม่เป็นภาระงบประมาณ เพราะกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงเกษตรจับมือกันผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรเพื่อยกระดับราคาดังนั้น จึงมีเฉพาะข้าวอย่างเดียวในขอบแรกของปีนี้ที่ต้องช่วย