คัดลอก URL แล้ว
WHO เสนอรัฐควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า-ห่วงทำลายสมองเยาวชน

WHO เสนอรัฐควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า-ห่วงทำลายสมองเยาวชน

ก่อนหน้านี้ผู้แทน UN ประจำประเทศไทยได้ส่งจดหมายถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แสดงความยินดีกับรัฐบาลไทยในการควบคุมการบริโภคยาสูบได้สำเร็จ พร้อมสนับสนุนรัฐบาลไทยในการห้ามจำหน่ายและนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า เพราะเป็นนโยบายที่ทำให้เห็นความมุ่งมั่นที่จะปกป้องคนไทยโดยเฉพาะเยาวชนจากอันตรายของบุหรี่ รวมทั้งเป็นไปตามกรอบอนุสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ประเทศไทยร่วมเป็นภาคี

ซึ่งการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยกรอบอนุสัญญาควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกครั้งที่ 7 ได้เรียกร้องให้รัฐภาคีใช้มาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า เช่นเดียวกับการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจาก 11 ประเทศเข้าร่วม ก็เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกร่างกฎระเบียบควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีหลายประเทศที่ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว อย่าง สิงคโปร์ ศรีลังกา ติมอร์เลสเต กัมพูชา เกาหลีเหนือ บรูไน ในหลายรัฐของอินเดีย รวมทั้งไทย

WHO ประจำประเทศไทยยังเปิดเผยข้อมูลการวิจัยจากทั่วโลก ระบุว่าเยาวชนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า เสี่ยงที่จะไปสูบบุหรี่ธรรมดาถึง 2 เท่าของผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้า ขณะที่ในกลุ่มชาวอเมริกา อายุ 18-30 ปี ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ก็หันมาสูบบุหรี่ธรรมดาถึง 6.8เท่าของผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนในกลุ่มเยาวชนไทย อายุ 13-15 ปีพบว่า ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก3.3 %ในปี 2558 เป็น 8.1% ในปี 2564

ที่ผ่านมามีการศึกษาว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้เลิกบุหรี่ธรรมดาได้ แต่ก็ต้องทำในเงื่อนไขที่เฉพาะ โดยจากข้อมูลของ WHO พบว่าผู้สูบบุหรี่ธรรมดายังสูบบุหรี่ไฟฟ้าควบคู่ไปด้วย และบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคติน เยาวชนที่สูบจึงเสพติดได้ง่าย เป็นอันตรายต่อการพัฒนาสมอง แม้จะไม่ใช่สารก่อมะเร็งแต่อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเนื้องอก โดยจากสถิติที่ผ่านมาพบว่าการสูบบุหรี่ทุกชนิดทำให้คนไทยเสียชีวิตไปกว่า 71,000 รายต่อปี สูญเสียทางเศรษฐกิจมูลค่าถึง 9.3 หมื่นล้านบาท จึงเสนอให้รัฐบาลทำทุกทางเพื่อป้องกันประชาชนจากการสูบบุหรี่ทุกประเภท


ข่าวที่เกี่ยวข้อง