วันนี้ (20 ต.ค.64) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ PCT เปิดเผยความคืบหน้าและแนวทางในการแก้ปัญหาเบื้องต้นให้กับผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกคนร้ายถอนเงินจากบัญชีธนาคารและบัตรเครดิต
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวว่า ภายหลังจากมีการประชุมหารือร่วมกันระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย, กสทช., ปปง., กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ และสมาคมธนาคารไทย สรุปผลการประชุมดังนี้
- ธนาคารจะรับผิดชอบเป็นผู้เสียหายเอง โดยจะคืนเงินให้กับประชาชนที่เสียเงินไปภายใน 5 วัน นับแต่ธนาคารรับทราบเรื่อง และจะรวบรวมพยานหลักฐานร้องทุกข์กับ บช.สอท. โดยผู้เสียหายไม่ต้องมาแจ้งกับตำรวจเอง แต่หากผู้เสียหายไปแจ้งความไว้ก่อนแล้ว ตำรวจจะประสานโดยตรงกับธนาคารเอง
2.ปปง. จะเปิดศูนย์ Hotline 1710 ประสานงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างพนักงานสอบสวนกับธนาคาร ในการอายัดบัญชีคนร้าย เพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเทเงินในบัญชี
3.กสทช. จะประสานข้อมูลกับผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อช่วยให้การสืบหาข้อมูลของคนร้ายได้เร็วขึ้น - กระทรวงดิจิทัลฯ จะเป็นเจ้าภาพหลักในการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับพี่น้องประชาชนผ่านทุกช่องทาง เพื่อให้รู้เท่าทันพฤติกรรมคนร้าย และจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับทุกหน่วยงานในการแก้ไขกฎเกณฑ์ และวิธีการ เพื่อให้ทันกับรูปแบบอาชญากรรมมากยิ่งขึ้น
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ศูนย์ PCT จะเป็นเจ้าภาพหลัก บูรณาการร่วมกับ บช.สอท., และ ศูนย์ PCT นครบาล,ภูธร 1-9 ในการรวบรวม ติดตามและเร่งรัดการดำเนินดดีจากทุกพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน โดยจะมีการตั้งชุดสืบสวนสอบสวน Online แต่ละจังหวัดเพื่อช่วยสนับสนุนข้อมูลพนักงานสอบสวนด้วย
ผอ.ศูนย์ PCT กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญมาก จึงสั่งการมายัง ผบ.ตร. ให้เร่งหาแนวทางร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว โดย ผบ.ตร. มอบหมายให้ตนเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้
ปัจจุบันคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางออนไลน์ทุกรูปแบบ ผู้เสียหายสามารถแจ้งความกับพนักงานสอบสวนท้องที่ใดก็ได้ ทั้งนี้หากพบเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1599 ตลอด 24 ชม. หรือ www.pct.police.go.th หรือ สายตรง 081-8663000 เฉพาะเวลาราชการ