“บิ๊กแนต” ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ WADA ได้แบน ประเทศไทยกรณีที่เรายังไม่ได้ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวข้องกับสารต้องห้ามให้สอดคล้องกับ Wada Code 2021 อันมีผลให้ประเทศไทยไม่สามารถขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันได้อีกต่อไปตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2021 จนกว่าจะดำเนินการได้สำเร็จ ส่วนมหกรรมกีฬารายการใดที่มีความตกลงกับสหพันธ์นานาชาติไว้แล้วยังคงสิทธิในการดำเนินการต่อไปได้จนจบ แต่ห้ามมีธงชาติไทย เสื้อผ้านักกีฬาในการแข่งขันยังคงติดตราธงชาติไทยได้ ตัวอย่างเช่นการแข่งขันมวยไทยนานาชาติที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ที่จังหวัดภูเก็ต, การแข่งขันเรือกรรเชียงชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ระหว่างวันที่ 8-12 ธันวาคม พ.ศ.2564 ที่ ศูนย์ฝึกกีฬาเรือพายราชนาวี อ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ตำบล สำนักท้อน อำเภอ บ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมี 7 ชาติส่งนักกีฬา ร่วมการแข่งขันประกอบด้วย ไทย, จีน, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, อินเดีย, อิหร่าน และ อิรัก นอกจากนี้ยังมีกีฬาไอซ์ฮอกกี้ที่จะมีแข่งขันในเดือนก.พ.ปีหน้าด้วย
“ในส่วนของสมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศไทยก็มีรายการ สำคัญจัดอยู่ 2 รายการใหญ่ในปีหน้าที่มีกำหนดการล่วงหน้าก่อนวันที่ 8 ต.ค. มี การแข่งขันฮอกกี้หญิงชิงแชมป์เอเชีย จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-30 มกราคม ปี 2022 โดยมี 8 ชาติได้สิทธิ์มี 1.สาธารณรัฐประชาชนจีน, 2.อินเดีย, 3.ญี่ปุ่น ,4.เกาหลีใต้, 5.มาเลเซีย,6.ไทย,7.คาซัคสถาน,8.สิงคโปร์ ซึ่งจะคัดเอาเพียงแค่ 3 ชาติไปแข่งขันชิงแชมป์โลกที่เบลเยี่ยมต่อไป และรายการนี้จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกด้วย สำหรับอีกรายการ อินดอร์ฮอกกี้ชิงแชมป์เอเชียทั้งทีมชายและทีมหญิงระหว่างวันที่ 21-28 มีนาคม 2022 หลังจากที่ได้เลื่อนการจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้วมาจัดในวันเวลาดังกล่าวด้วย
นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม หลังจากที่วาด้าสั่งแบนไทยตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.ทีผ่านมา ก็ได้ปรึกษากับทางดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศตลอด ต้องชื่นชมที่ทางท่านผู้ว่าการ กกท. ติดตามเรื่องและมีการประสานกับทางองค์กรวาด้าตลอดเวลาเพื่อความเข้าใจก้บบริบทหน้าที่ของประเทศไทยต่อไปต้องทำอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องการบริหารงานของผู้บริหารไทยที่เข้าไปมีตำแหน่งสำคัญของสหพันธ์ และสมาพันธ์กีฬานั้นๆสามารถทำได้อยู่ต่อหรือไม่ ทางท่านผู้ว่าการ กกท.ได้คุยกับวาด้าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ข้อสรุปคือ ตำแหน่งต่างๆในสหพันธ์-สมาพันธ์ทั้งเอเชียและนานาชาติยังคงอยู่เหมือนเดิมทำกิจกรรมร่วมได้ยกเว้นตำแหน่งที่ถูกแต่งตั้งจากรัฐบาลไทยไปเป็นกรรมการใน WADA Committee หรืออื่นๆให้ยุติการปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราว
สำหรับการแก้ข้อกฎหมายของไทยกับวาด้าในเรื่องของสารต้องห้ามนั้นตอนนี้ทางท่านผู้ว่าการ กกท.และทีมงานได้ทานอย่างเต็มทีโดยมีท่านวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้เข้ามาช่วยดูในขบวนการแก้ข้อกฎหมายตามข้อต่างๆ เพื่อออกเป็นพ.ร.ก.ให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะการแก้ไขข้อบังคับแต่ละหัวข้อเมื่อเสร็จแล้วทางท่านผู้ว่าการ กกท.ก็จะส่งให้ทางวาด้ารับทราบไปพร้อมๆกัน เพื่อความรวดเร็วที่สุด ซึ่งตนเชื่อว่าการทำงานที่รวดเร็วของทางท่านผู้ว่าการ กกท.จะช่วยให้เรื่องนี้จบเร็ววันภายใน 3-4 เดือนที่กำหนดเอาไว้
