สโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แถลงข่าวการขายกิจการจาก ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของคนปัจจุบันสู่กลุ่มทุนที่มี โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่ง ซาอุดีอาระเบีย เป็นหัวเรือใหญ่ และทำให้ นิวคาสเซิล เป็นสโมสรที่รวยที่สุดในโลกทีมใหม่ทันที (รวยกว่าเจ้าของ แมนฯซิตี้ และเปแอสเช)
ความพยายามในการเข้าซื้อกิจการ “สาลิกาดง” ครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของ กองทุนการลงทุนภาครัฐซาอุดีอาระเบีย (พีไอเอฟ), มาดาม อะแมนด้า สเตฟลี่ย์ และพี่น้อง รูเบน ตั้งแต่ซัมเมอร์ 2020 ด้วยมูลค่า 300 ล้านปอนด์
ทว่า ณ ขณะนั้น ‘พีไอเอฟ’ ถูก บี-อิน สปอร์ตส์ เครือข่ายถ่ายทอดสดสัญชาติกาตาร์ที่เป็นพันธมิตรของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขัดขวางด้วยกรณีละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศซาอุฯ ส่งผลให้การเจรจาซื้อ-ขายสโมสร นิวคาสเซิ่ล ถูกระงับ
กระทั่งล่าสุดมีการแก้ปัญหาสตรีมมิ่งแบบผิดกฎหมายจนเป็นที่น่าพอใจ ทำให้กระบวนส่งผ่านเดินหน้าอีกครั้ง จนสำเร็จในที่สุด
ขณะที่แฟนบอลสาลิกามากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ก็เห็นด้วยกับการเปลี่ยนเจ้าของทีมเพราะ ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของทีมคนเก่าไม่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล “สาลิกาดง” โดยตลอดเวลาที่ผ่านมามีสถิติเสริมทัพนักเตะเฉลี่ยปีละ 9.3 ล้านปอนด์เท่านั้น ทำให้สโมสรมีผลงานลุ่มๆดอนๆ ต้องทำอันดับหนีตกชั้นแทบทุกฤดูกาล แต่หลังจากได้เจ้าของทีมรายใหม่ คาดว่า นิวคาสเซิล น่าจะทยอยเสริมนักเตะระดับโลกเข้าสู่ทีม พร้อมเปลี่ยนสถานะเป็นทีมลุ้นแชมป์ในอนาคต