พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเข้าตรวจสอบอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยจตุรทิศ 2 แยก 23 เขตดินแดง หลัง ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน ผบ.หมู่ กก.อารักขา 1 ถูกยิงที่ศีรษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ขณะเข้าควบคุมสถานการณ์ผู้ชุมนุม บริเวณแยกดินแดง
โดยขณะนี้เวลาผ่านมากว่า 10 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปิดล้อมตรวจค้นอพาร์ทเม้นต์ต้องสงสัย และพื้นที่ใกล้เคียงภายในบริเวณแฟลตดินแดง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในพื้นที่ภายใน ซึ่งยังหลงเหลือร่องรอยการปะทะกันตลอดทั้งซอย ทั้งกระสุนยาง และเศษขวดแก้วที่แตก ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งหาพยานหลักฐาน และพยานวัตถุ เพื่อใช้ในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุตัวจริง หลังมีการควบคุมตัวผู้ชุมนุมได้มากกว่า 40 คน ซึ่งถูกนำตัวส่ง สน.ดินแดง และสน.พหลโยธิน เพื่อนำตัวไปสอบปากคำ
ด้าน พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า เหตุการณ์นี้ ผบ.ตร. ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งการตรวจค้นพบอาวุธจำนวนมาก ส่วนตัวคนร้ายเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังขยายผล แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นใคร ส่วนเรื่องการวางกำลังเมื่อวานมีการตรวจสอบพื้นที่ และสำรวจเส้นทางหลบหนี จึงมีการวางกำลังในจุดล่อแหลม ซึ่งไม่ใช่การไล่ล่า แต่เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง ที่ตำรวจทำตามหลักยุทธวิธี ส่วนรายละเอียดชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานทั้งหมด
จากการสอบถามชาวบ้านแฟลตดินแดง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน นายชูเดช เมฆลอย อายุ 53 ปี เผยว่า เหตุเกิดตอนประมาณ เวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนปฏิบัติหน้าที่กำลังไล่เด็กกลุ่มทะลุแก๊ส จากสามเหลี่ยมดินแดง มาจนถึง ซอยแสงอุทัยทิพย์ หน้าตึกทัศนี เบญจรงค์คอนโดมิเนียม ตนก็ยอมรับว่า ได้ตะโดนด่าทอเจ้าหน้าที่ร่วมกับชาวบ้านระแวกนี้ เนื่องจากไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งตอนนั้นมันมืดมองไม่ค่อยเห็นอะไร ได้ยินแต่เสียงระเบิดดังตลอด
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ประกาศว่า ขอให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้หลบอยู่แต่ในที่พักอาศัย เนื่องจากในพื้นที่มีเหตุอันตรายเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้กระสุนจริง เมื่อเด็กวิ่งหลบหนีหายเข้าไปในซอยเหตุการณ์สงบก็เห็นเจ้าหน้าที่ 1 ราย ถูกยิง ชาวบ้านที่อยู่แถวนี้ต่างตกใจ พร้อมมั่นใจไม่ใช่เด็กแฟลตดินแดงแน่นอน เป็นเด็กจากที่ไหนไม่รู้มาก่อเหตุที่นี้ เมื่อเช้าเจ้าหน้าที่สามารถจับตัวได้ประมาณ 4-6 คน ก็มองเห็นหน้าชัดเจน ขอยืนยันเลยว่าเป็นเด็กที่อื่น
ด้านชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ-นามสกุล) เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ที่ผ่านมาในซอยไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรง ซึ่งครั้งนี้ทำให้ตัวเองรู้สึกหวาดกลัว โดยเฉพาะช่วงเกิดเหตุการณ์กลุ่มผู้ก่อเหตุขี่จักรยานยนต์หลบหนีเจ้าหน้าที่เพื่อไปเส้นทางลัดไปซอยหมอเหลง แต่เจ้าหน้าที่ติดตามกดดันจนมาถึงที่เกิดเหตุจนทำให้มีเจ้าหน้าที่ถูกยิง ก่อนจะมีการนำส่งโรงพยาบาล
และขอฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถผ่านเส้นทางนี้ได้ แต่ไม่ควรมาตั้งกลุ่มก๊วนหรือก่อเหตุภายในซอย เพราะจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน