ทีมหน่วยกู้ภัยทางสูงประเทศไทยร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเชียงใหม่ ใช้อุปกรณ์โรยตัวนำเปลสนามลงไปเก็บกู้ร่างของหนุ่มนักปั่นจักรยานคนหนึ่ง หลังประสบอุบัติเหตุขี่จักรยานลงเนินเขาพุ่งตกลงไปในเหวลึกข้างทาง บริเวณทางโค้งลงดอยม่อนแจ่ม ด้านหน้าร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จนทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยทีมกู้ภัยใช้เวลานานเกือบสองชั่วโมง ช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตผูกกับเปลสนามและค่อย ๆ ใช้เชือกดึงขึ้นมาด้วยความยากลำบากเนื่องจากจุดเกิดเหตุมีความลาดชัน
หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม พร้อมด้วยแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลนครพิงค์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายกฤติสุพรรณ์ ขันไชย อายุ 34 ปี สภาพศพกระแทกกับตอไม้จนมีแผลฉกรรจ์บริเวณท้อง ในที่เกิดเหตุพบรั้วไม้บริเวณทางโค้งลงเนินเขา ถูกพุ่งชนจนทะลุเป็นรูโหว่ มีรถจักรยานเสือภูเขาของผู้เสียชีวิตล้มคว่ำอยู่สภาพเฟรมหัก ขณะที่นายสง่า ขันไชย บิดาพร้อมกับมารดาของผู้เสียชีวิตมารอรับศพและเข้าไปกอดร่างลูกชายด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนประสบอุบัติเหตุผู้เสียชีวิตนัดหมายกับเพื่อนนักปั่นเป็นชายและหญิงรวม 3 คน เริ่มปั่นจักรยานออกจากแยกทุ่งหัวช้าง อ.แม่ริม ไปตามเส้นทางถนนเชียงใหม่ – สะเมิง เลี้ยวเข้าเส้นทางบ้านแม่ขิ ต.แม่แรม ไปจนถึงดอยม่อนแจ่ม หลังจากนั้นได้ปั่นจักรยานยนต์ลงจากดอยม่อนแจ่มเพื่อวนกลับ เมื่อปั่นจักรยานผ่านมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งหักศอกลงเขา ปรากฏว่าผู้เสียชีวิตไม่สามารถเลี้ยวไปตามทางได้ พุ่งตรงไปชนรั้วไม้ที่กั้นริมถนนจนตกลงไปในเหวลึก
เพื่อนนักปั่นที่มาด้วยกัน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้ปั่นจักรยานล่วงหน้าไปก่อนจนมองไม่เห็นกัน ทำให้ไม่รู้ว่าประสบอุบัติเหตุ เมื่อปั่นจักรยานเลยผ่านจุดเกิดเหตุ ได้มีชาวบ้านตะโกนบอก จึงรีบย้อนกลับมาดู ก็พบว่าผู้เสียชีวิตตกลงไปด้านล่าง จึงรีบโทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพ 1669 ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าจะมาจากถนนลื่นจากฝนที่เพิ่งหยุดตกประกอบกับระบบเบรกมีปัญหา ทำให้เบรกไม่อยู่ โดยผู้เสียชีวิตปั่นจักรยานมานานหลายปี มีประสบการณ์ปั่นลงเขาและยังคุ้นเคยเส้นทาง
หลังตรวจที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่โรงพยาบาลนครพิงค์ พร้อมกับนำจักรยานส่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบตามขั้นตอนกฎหมาย ด้าน ตำรวจสายตรวจ สภ.แม่แรม เผยว่า จุดนี้เป็นทางลงเขาที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่คุ้นเคยเส้นทาง พร้อมเตือนผู้ใช้รถให้ระมัดระวังให้มากขึ้น