ทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยทัพที่ 3 ซึ่งเป็นทัพสุดท้ายที่เสร็จสิ้นการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์แล้ว นำมาโดยนักกีฬาจาก 4 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย บอคเซีย, แบดมินตัน, วีลแชร์เทนนิส และ ยิงปืน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทีมกีฬาและเจ้าหน้าที่คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย รวมทั้งสิ้นจำนวน 55 คน ก็ได้เดินทางมาถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ด้วยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ726 เวลา 09.25 น. ซึ่งเมื่อทัพนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลลงจากเครื่องก็ได้รับดอกไม้พระราชทานเป็นกำลังใจโดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
สำหรับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลที่เดินทางมาถึงยังโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ชุดสุดท้ายนี้ ประกอบด้วย วัชรพล วงษา 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงินบอคเซีย, วรวุฒิ แสงอำภา 1 เหรียญทองบอคเซีย, วิษณุ ฮวดประดิษฐ์ 1 เหรียญทองบอคเซีย, สุบิน ทิพย์มะณี 1 เหรียญทองบอคเซีย, พรโชค ลาภเย็น 1 เหรียญเงินบอคเซีย, สุจิรัตน์ ปุกคำ 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดงแบดมินตัน และ อำนวย เวชวิฐาน 1 เหรียญทองแดงแบดมินตัน
จากนั้น คณะนักกีฬาได้ผ่านการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ( PCR TEST) แล้วได้ร่วมพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่อลังการด้วยการลอดซุ้มธงชาติไทยออกมายังภายนอกอาคาร ซึ่งทัพพาราเดินทางออกมาพร้อมกับมีการร่ายรำสวยงามตระการตา โดยมีผู้ใหญ่ร่วมเดินมาส่งจนถึงจุดหมายปลายทาง เป็นภาพสุดประทับทับใจแก่ผู้เข้าร่วมพิธีทุกคนอย่างมาก โดยทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เตรียม “น้องจุ้ง” มาสคอตของจังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดมาสคอตภูเก็ตในงาน “ภูเก็ต มาสคอต ดีไซน์ คอนเทสต์” และช่อ “ดอกเฟื่องฟ้า” ดอกไม้ประจำจังหวัดภูเก็ต ไว้คอยต้อนรับให้แก่ทัพนักกีฬาฮีโร่ของไทยทุกคนอีกด้วย
ต่อจากนั้นคณะนักกีฬาได้ร่วมชมการแสดงต้อนรับสุดยิ่งใหญ่อลังการที่มีชื่อว่า “การแสดงรำลีลายั่วทับ” ซึ่งแสดงถึงขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมประเพณีอันงดงามของชาวท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ตได้อย่างดียิ่ง สร้างรอยยิ้มและความตื่นตาตื่นใจให้แก่คณะทัพนักกีฬา ฮีโร่พาราทีมชาติไทยอย่างถ้วนหน้า ก่อนที่คณะนักกีฬาจะออกเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตไปยัง “โฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน ภูเก็ต ป่าตอง บีช รีสอร์ท” เพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัยและเป็นการเข้าสู่โครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการของรัฐบาลต่อไป
ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงในส่วนของเรื่องการเตรียมความพร้อมของทัพไทยในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ครั้งต่อไปครั้งที่ 17 “ปารีส 2024” ในอีก 3 ปีข้างหน้านั้น ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในการแข่งขันครั้งหน้าจะมีการเตรียมตัวที่สั้นกว่าทุกครั้งด้วยเหตุของการเลื่อนจัดครั้งล่าสุดมาเพราะไวรัสโควิด ทำให้เหลือเวลาเตรียมตัวอีกเพียง 3 ปีเท่านั้น อีกทั้งเท่าที่ตนได้รับทราบมานั้นในการแข่งขันครั้งหน้าจะมีหลายชนิดกีฬาที่จะทำการเปลี่ยนกฎกติกาและอุปกรณ์ที่จะใช้แข่งขันใหม่โดยเฉพาะบรรดาชนิดกีฬาที่เป็นความหวังสูงสุดของไทยซึ่งได้รับเหรียญทองมาล่าสุดทั้งวีลแชร์
เรซซิ่งและบอคเซีย ตอนนี้ทางกการกีฬาฯ ก็วางแผนเตรียมที่จะต้องปรับกลยุทธต่างๆ เพื่อตามการเปลี่ยนแปลงใหม่ให้ทัน ซึ่งหลังจากนี้ก็คงจะต้องเก็บตัวฝึกซ้อมกันทันทีในรูปแบบของศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติซึ่งก็จะนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาใช้ให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงเรื่องการดูแลอาการบาดเจ็บของนักกีฬาไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกเหมือนกับกีฬาแบดมินตันหญิงเดี่ยวในนัดชิงที่มีอารการบาดเจ็บก่อนแข่งทำให้พลาดเหรียญทองไป ก็คงต้องมาเน้นกันในเรื่องการดูแลรักษาร่างกายและใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาให้มากขึ้น