ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐกล่าวถึง กรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์ข้อความว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตนีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นคำสั่งปลดตัวเองออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว ว่า ตนไม่ทราบ และไม่ได้ไปคุยกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตนไปคุยธุระข้างนอกมาและยังไม่เห็นข่าวดังกล่าว ส่วนถ้าไม่ใช่เรื่องจริงจะดำเนินการเอาผิดนายมงคลกิตติ์ ที่ปล่อยข่าวออกมาหรือไม่นั้น เชื่อว่านายมงคลกิตติ์ คงไม่ได้ประสงค์ร้ายอะไรกับตน จะไปเอาผิดได้อย่างไร ต้องไปถามนายมงคลกิตติ์
เมื่อถามว่าหลังจากการแถลงข่าววานนี้ (1 ก.ย.) ได้มีการพูดคุยกับพลเอกประยุทธ์ แล้วหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ย้ำว่าตนไม่ได้คุยกับพลเอกประยุทธ์ แต่พูดคุยกับพลเอกประวิตร ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค และตอนกลางวันตนก็ยังไปกินข้าวกับพลเอกประวิตร มา
เมื่อถามว่า ได้เคลียร์ปัญหาที่เป็นรอยร้าวเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนยืนยันว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร และได้ตอบคำถามในการแถลงข่าวเมื่อวานชัดเจนหมดแล้ว
เมื่อถามว่า มีการเชื่อมโยงคำพูดนายกฯ เรื่องแอบอ้างสถาบันว่าเป็นตนเองนั้น ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า “อย่าถามเรื่องประเด็นนี้ การเมืองเราต้องแยกให้ชัดเจน การเมืองคือการเมือง อย่าดึงสถาบันเข้ามาเล่น”
เมื่อถามว่า หากที่นายมงคลกิตติ์ โพสต์เป็นเรื่องจริงจะทำอย่างไรต่อไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า คำตอบของตนเมื่อวานชัดเจนทุกเรื่องอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่า คือการกลับไปเป็นส.ส.อย่างเดียวใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ตนมาจากประชาชน ส่วนการไปคุยกับหัวหน้าพรรคได้แนะนำหรือเตือนอะไรหรือไม่นั้น ตนยืนยันตามที่แถลงไปเมื่อวาน ไม่มีประเด็นอะไรใหม่เลย
เมื่อถามต่อว่า หากที่นายมงคลกิตติ์ โพตส์คิดว่าตนเองได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า เราเข้าสู่เวทีการเมืองแล้ว อย่าไปคิดมาก ซึ่งในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราคือตัวแทนพี่น้องปวงชนชาวไทย ดังนั้นคุณจะทำอะไรก็ต้องคิดถึงผลประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและประชาชนเป็นที่ตั้ง เสียงจากประชาชนคือเสียงสวรรค์ ตนคิดแค่นี้ แต่ชีวิตก็ไม่เคยคิดมาเล่นการเมือง
เมื่อถามย้ำถึงการแอบอ้างสถาบัน ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า “นี่คุณถามอีกแล้ว อย่าเอาเรื่องสถาบันมายุ่งกับการเมือง” และเมื่อถามย้ำว่า กระแสข่าวที่ออกมาวันนี้มองว่ารุนแรงกับตัวเองหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ตนผ่านความเป็นความตายมามากพอแล้วในชีวิต ดังนั้นหนทางที่ก้าวไปข้างหน้า มันจะมีหลุมมีบ่อมีเหว เราก็ต้องเตรียมพร้อม
ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาจะส่งผลต่อการโหวตไม่ไว้วางใจ ในวันที่ 4 ก.ย.นี้หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ซึ่งเป็นสิทธิส่วนบุคคลของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เราไม่วามารถไปบังคับได้ เมื่อถามว่า หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงแสดงว่ามีปัญหากับนายกฯ ใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ก็มีแต่กระแสข่าว ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ
เมื่อถามย้ำว่า ในฐานะเลขาฯพรรค ยืนยันว่าจะรวบรวมเสียงสนับสนุนนายกฯ ใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า “ผมพูดเสมอว่า ทุกอย่างอยู่ที่ท่านหัวหน้าจะให้นโยบายอย่างไร แต่ทุกอย่างอยู่ที่เอกสิทธิ์และสิทธิของสมาบิกสภาผู้แทนราษฎรแต่ละท่านว่าจะตัดสินใจในเรื่องเสียงในสภาอย่างไร เราไปครอบงำเขาไม่ได้หรอก ผมเชื่อว่าส.ส.ทุกคน กว่าจะมาเป็นส.ส. เขาผ่านอะไรมาเยอะ มีทั้งองค์ความรู้และประสบการณ์ชีวิต แต่ผมเชื่อว่าวิถีชีวิตของการเป็นนักการเมือง ประชาชนจะเลือกคุณหรือไม่เลือกคุณในสมัยเลือกตั้งครั้งหน้า มันอยู่ที่พฤติกรรมของคุณ แล้วคุณทำงานดูแลพี่น้องประชาชนของคุณหรือเปล่า”
สุดท้ายเมื่อถามว่า จากปัญหาในครั้งนี้ทำให้ถอดใจลาออกจากรัฐมนตรีหรือไม่ ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า ตนพูดเสมอว่าไม่ยึดติดกับตำแหน่งหน้าที่