องค์การอนามัยโลก แถลงว่า โควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์มิว (Mu) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า B.1.621 พบครั้งแรกในโคลัมเบียร์ เมื่อเดือนมกราคม 2564 ถูกจัดให้เป็น “สายพันธุ์ที่น่าสนใจ” เพราะมีความเสี่ยงต้านทานวัคซีนได้ แต่ก็จำเป็นต้องศึกษามากกว่านี้
องค์การอนามัยโลก ยังแสดงความกังวล เรื่องโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ๆ เมื่ออัตราการติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีกครั้ง สายพันธุ์เดลตาที่ติดต่อได้ง่ายระบาดหนัก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และในภูมิภาคที่ผ่อนคลายมาตรการต้านโควิด
ญี่ปุ่นที่เพิ่งรายงานว่าพบเดลตากลายพันธุ์ ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ “มิว” ในญี่ปุ่นแล้ว 2 คน โดยมีประวัติอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหราชอาณาจักร และทั้งคู่ไม่มีอาการ
นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า ไทยยังไม่พบโควิดสายพันธุ์ C.1.2 พบครั้งแรกในแอฟริกา โดยมีการเฝ้าระวังเชื้อกลายพันธุ์อยู่ตลอด
นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ บอกว่า แม้ว่าสถานการณ์คล้ายจะดูดีขึ้น แต่ต้องไม่ลืมว่า มีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา สายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น เช่น สายแอฟริกาใต้ ปรับตัวใหม่ดื้อกว่าเก่า ที่วัคซีนเอาไม่อยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งหนักข้อขึ้น เข้าหลายประเทศแล้ว ยังเป็นระลอกสาม เพราะยังคุมไม่ได้ต่อเนื่องยาวไปเรื่อยๆ
นายแพทย์ธีระวัฒน์ ตั้งข้อสังเกตว่า เชื้อโควิดช่วงหลัง กำลังดื้อยา ทั้งฟาวิพิราเวียร์ และเรมเดซิเวียร์ และเห็นว่ารัฐบาลควรสั่งซื้อมาเพิ่ม