ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 7 ถึงที่ 9 จำคุก 8 เดือน ไม่รอลงอาญา นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายอมร อมรรัตนานนท์ และ นายเทิดภูมิ ใจดี
วันที่ 31 สิงหาคม 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาฯศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ อ.3973/2558 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)ชุมนุมดาวกระจายปี 2551 ขับไล่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ซึ่งเป็นคดีที่พนักอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ ฟ้องอดีตแกนนำ พันธมิตรฯ 9 คน คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล , นายพิภพ ธงไชย , นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข , นายสุริยะใส กตะศิลา , นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ , นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี และนายเทิดภูมิ ใจดี ร่วมกันเป็นจำเลย1-9 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดฯเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชนและก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร , ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการโดยผู้กระทำคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิก แต่ไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 , 215 , 216
คดีนี้ ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ก.ค.60 ให้ยกฟ้อง พล.ต.จำลอง จำเลยที่ 1- นายสุริยะใส กตะศิลา จำเลยที่ 6
ส่วนนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี และนายเทิดภูมิ ใจดี จำเลยที่ 7-9 มีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 แต่เมื่อพิเคราะห์พฤริการณ์แห่งเจตนาคดี และเหตุผล ประกอบอายุประวัติ อาชีพ ความประพฤติการศึกษา อบรมและสุขภาพของจำเลยทั้งสองแล้ว เห็นควรรอการกำหนดโทษไว้ 2 ปี
ต่อมาวันที่ 30 ม.ค.62 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยเห็นว่า จำเลยที่ 7-9 ไม่มีความผิด จึงพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องทั้งสามด้วย
อัยการโจทก์ยื่นฎีกา ขอให้ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 9 คน
ล่าสุดช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลชั้นต้น จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ คือ ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ถึง 6 และลงโทษจำเลยที่ 7 ถึง 9 ให้ จำคุก 8 เดือน ไม่รอลงอาญา
ส่วนสาเหตุที่ศาลยกฟ้องจำเลยที่ 1 ถึง 6 นั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ศาลตัดสินลงโทษไปแล้ว และจำเลยก็ได้รับโทษไปแล้ว ซึ่งภายหลังได้มีการฟ้องเพิ่มจำเลยที่ 7 ถึง 9 ซึ่งยังไม่เคยได้รับโทษในคดีนี้ ศาลฎีกาจึงพิพากษาลงโทษเนื่องจากร่วมกระทำผิดด้วยกันทั้ง 9 คน