“เขาก็จะแคปพวกรีวิว ที่เคยมีคนเล่นแล้วก็ได้จริง น้องก็ เลยเชื่อ เขาว่าลงทุนขั้นแรก 300 แต่น้องเห็นว่ามันได้เยอะเลยลงทุนไปเลย 2 พัน เขาให้กรอกใบสมัคร เขียนชื่อ นามสกุล ไอดีไลน์ เลขบัญชี เบอร์โทรศัพท์”
นี่คือคำบอกเล่าของ เด็กหญิงวัย 14 ปี ที่ถูกแก๊งปันเกมหลอกให้โอนไปเพื่อการลงทุน จนหมดบัญชี เธอ เล่าว่า ขณะที่กำลังเล่นเฟซบุ๊กผ่านมือถือ มีข้อความเด้งขึ้นมา ชวนให้ลงทุนด้วยการฝากเงิน เพียง 200 บาท ได้ผลตอบแทนคืน 1 พันบาท โดยสามารถถอนเงินสดได้ทันที เพราะอยากให้พ่อแม่มีเงินเยอะขึ้น เธอจึงตัดสินใจเข้าไปคุยกับเจ้าของเฟซบุ๊กโดยตรง และถูกหว่านล้อมให้ร่วมเล่น “ปันเกม” โดยให้โอนเงินเข้าบัญชี ชื่อ นาตยา ปานสุวรรณ ธนาคารไทยพาณิชย์
หลังจากลงทุน จนยอดถอนได้ร่วม 5 แสนบาท เด็กหญิงก็เลยพยายามให้แก๊งปันเกม โอนเงินคืน แต่เรื่องกลับเงียบ จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก จึงเล่าเรื่องให้พ่อฟัง และไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ละแม
ขณะที่ นายสมศักดิ์ ศรียุภักดิ์ อายุ45ปี ผู้เป็นพ่อ และยังเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 เล่าว่า ครอบครัวมีอาชีพรับซื้อทุเรียนหมอนทองจากชาวสวนในหลายอำเภอ การซื้อทุเรียนจะใช้วิธีโอนเงิน จากบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของชาวสวน
แต่มักเกิดปัญหาสถานที่รับซื้อไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต จึงให้โทรศัพท์มือถือที่มีแอปพลิเคชันของธนาคาร และให้ลูกสาวถือ เพราะอยากให้ลูกสาวช่วยเหลืองาน ซึ่งยอดเงินในบัญชี มีกว่า 3 แสนบาท ก็กลับถูกแก็งปันเกมหลอกให้โอนเงินไป 3 แสน 3 หมื่นบาท เหลือติดบัญชีเพียงไม่กี่บาทเท่านั้น
“ในแต่ละปีทำงานเหน็ดเหนื่อย ได้มาสี่แสนห้าแสนก็เป็นน้ำพักน้ำแรงของครอบครัวผม ผมก็ไม่ได้ดุลูก เพราะทำพลาดไปแล้ว เด็กในอายุ 14 ปี ใครพูดอะไรก็เชื่อ แต่ขอถามคนที่เป็นแก๊งที่หลอกลวง คุณทำอะไรกันอยู่ คุณไม่มีงานทำกันเหรอ งานที่ดี ความรู้คุณก็มี งานจำพวกแบบนี้มันไม่สมควรมีในประเทศไทย”
ผู้ใหญ่สมศักดิ์ พูดทิ้งท้าย ด้วยเสียงสั่นเครือว่า ไม่คิดว่าอาชีพแบบนี้ อาชีพที่คอยหลอกลวงเงินจากน้ำพักน้ำแรง คนอื่นจะมีในสังคมไทย จากนี้ก็ได้แต่หวังพึ่งตำรวจ ให้ติดตามแก๊งคนร้าย มาดำเนินคดี เพื่อไม่ให้ไปหลอกลวงคนอื่นอีก และคาดหวังว่า ครอบครัวจะได้เงินจำนวนดังกล่าวคืนมา