คัดลอก URL แล้ว
แข้งเทพ ปิดบิ๊กดีลคว้าตัว “ฐิติพันธ์” เสริมทัพสู้ศึกไทยลีก

แข้งเทพ ปิดบิ๊กดีลคว้าตัว “ฐิติพันธ์” เสริมทัพสู้ศึกไทยลีก

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ปฏิบัติการเสริมทัพสมคอนเซ็ปต์ฤดูกาลใหม่ “NEVER SAY NEVER : อย่าบอกว่าเป็นไปไม่ได้” หลังเซ็นสัญญาคว้าตัว “ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์” กองกลางทีมชาติไทยจากสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อย เจ้าตัวยอมรับสุดตื่นเต้นกับความท้าทายครั้งใหม่ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจคต์ของ “โค้ชแบน” กับการพาทีม “แข้งเทพ” คว้าแชมป์ให้ได้

เจ้านิวให้สัมภาษณ์ถึงการย้ายทีมในครั้งนี้ว่า “รู้สึกดีใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมากครับ กับความท้าทายครั้งใหม่ในอาชีพการค้าแข้งของผม อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ทรู แบงค็อกฯ เป็นทีมใหญ่ และยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการใดๆเลย ฉะนั้นผมย้ายมาที่นี่ก็อยากจะมีส่วนในการพาสโมสรประสบความสำเร็จครับ อย่างแรกผมคงต้องซึมซับและปรับตัวเข้ากับทีมให้ได้เร็วที่สุด เพราะทีมมีระบบการเล่นที่ดีอยู่แล้วและมีนักเตะที่อยู่ด้วยกันมานาน ผมเองต้องเป็นฝ่ายปรับตัวเข้าหาทีม ไม่ใช่ทีมปรับตัวเข้าหาผม ฉะนั้นหลังจากนี้ก็ต้องทำงานหนักเพื่อให้ตัวเองมีความพร้อมที่สุดสำหรับฤดูกาลใหม่ครับ”

ฐิติพันธ์เคยร่วมงานกับ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน มาแล้วสมัยที่อยู่กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2016 แม้จะเป็นระยะเวลาไม่นาน แต่เขาก็ประทับใจกับแนวทางการทำทีมของกุนซือวัย 49 ปีรายนี้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าตัดสินใจได้ไม่ยากกับการย้ายมาค้าแข้งในถิ่นทรู สเตเดียม

การย้ายข้ามฟากจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มาสู่ทีมร่วมเมืองอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในครั้งนี้เป็นรูปแบบการยืมตัวจนถึงสิ้นสุดปี 2021 หลังจากนั้นเจ้าตัวได้จรดปากกาเซ็นสัญญาต่อเนื่องกับทีม “แข้งเทพ” ไปอีก 3 ปีครึ่ง จนถึงสิ้นสุดฤดูกาล 2024/2025

สำหรับ “เจ้านิว” เริ่มต้นเส้นทางการค้าแข้งกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ปี 2010 ก่อนจะถูก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมทัพในช่วงกลางฤดูกาล 2016 โดยเจ้าตัวอยู่ในชุดที่พาทีม “กว่างโซ้งมหาภัย” คว้าชัยเหนือ ทรู แบงค็อกฯ ในศึกเอฟเอ คัพ ปี 2017 รอบชิงชนะเลิศ ร่วมกันกับ “เอเวอร์ตัน กอนคัลเวส” และ “วานเดอร์ หลุยส์” สองนักเตะ “แข้งเทพ” ในทีมชุดปัจจุบัน

ในฤดูกาล 2018 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เซ็นสัญญาคว้าตัวห้องเครื่องทีมชาติไทยรายนี้ไปร่วมทีม จากนั้นจึงได้ปล่อยให้เขาเดินตามความฝันในการไปค้าแข้งที่ประเทศญี่ปุ่นกับ โออิตะ ทรินิตะ สโมสรในเจลีก 1 ในรูปแบบยืมตัวเป็นระยะเวลา 1 ฤดูกาลในปี 2019 ก่อนจะกลับมาพาทัพ “เดอะ แรบบิท” คว้าแชมป์ไทยลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในฤดูกาลที่ผ่านมา

ขณะที่ผลงานในทีมชาติฐิติพันธ์สร้างชื่อจากการลงเล่นให้ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ที่คว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รอบคัดเลือก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจนได้รับฉายาว่า “Class of 2011” จากการแจ้งเกิดพร้อมๆกันของเหล่าดาวรุ่งตัวเทพหลายคนในยุคนั้น ก่อนจะต่อยอดไปสู่การเล่นให้ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ด้วยผลงานการคว้าเหรียญทองซีเกมส์ในปี 2013 และ 2015 และก้าวสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่อย่างเต็มตัวด้วยการเป็นแข้งตัวหลักในชุดที่คว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 ในปี 2017 ต่อเนื่องมาจนถึงชุดล่าสุดที่ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา


ข่าวที่เกี่ยวข้อง