คัดลอก URL แล้ว
ผู้ประกอบการทวงหนี้ ค้านลดค่าธรรมเนียมทวงถาม หวั่นกระทบพนักงานกว่า 16,000 ชี้สถานการณ์โควิด ติดตามหนี้สำเร็จลดลงมาก

ผู้ประกอบการทวงหนี้ ค้านลดค่าธรรมเนียมทวงถาม หวั่นกระทบพนักงานกว่า 16,000 ชี้สถานการณ์โควิด ติดตามหนี้สำเร็จลดลงมาก

ผู้ประกอบการทวงหนี้ ค้านลดค่าธรรมเนียมทวงถาม หวั่นกระทบพนักงานกว่า 16,000 ชี้สถานการณ์โควิด ติดตามหนี้สำเร็จลดลงมาก

สมาคมผู้ประกอบการทวงหนี้ ระบุปัจจุบันสถานการณ์โควิดทำให้การทวงถามติดตามหนี้สำเร็จลดลงมาก และอัตราการยึดรถและฟ้องร้องก็มีจำนวนมากขึ้น


ขณะที่การประกาศอัตราค่าธรรมเนียมการทวงถามหนี้ใหม่ เหลือ 50 บาท ค้างชำระไม่เกิน 1 งวด ลงพื้นที่ติดตามให้คิดแค่ 400 บาท สำหรับรถทุกประเภท อาจส่งผลกระทบต่ออัตราส่วนหนี้เสีย และผลักให้ลูกหนี้ไปพึ่งพาหนี้นอกระบบได้



คณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ ประกาศอัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆในการทวงถามหนี้ใหม่ โดยหนี้ที่ค้างชำระ 1 งวด เก็บได้ไม่เกิน 50 บาท ค้างชำระ 2 งวดขึ้นไป ไม่เกิน 100 บาท และค่าติดตามจากการลงพื้นที่ 400 บาท

นางสาวอภิญญา จันทภาโส นายกสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ไทย เปิดเผยว่า สมาคมเตรียมทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้ทบทวนอัตราดังกล่าว เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อลูกหนี้และส่งผลโดยตรงกับพนักงานทวงถามหนี้ 16,000 คนทั่วประเทศได้

โดยปัจจุบันบริษัทสมาชิกของสมาคมทำหน้าที่ติดตามทวงถามหนี้เฉพาะรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นหลัก โดยเน้นการเตือนให้จ่าย และเข้าสู่ระบบหรือกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ มีกระบวนการทำงานเป็นมืออาชีพและอยู่ภายใต้การควบคุม และระบบการบันทึกเสียง เพื่อเป้าหมายให้ชำระหนี้ได้ ไม่ต้องมีการฟ้องร้อง ซึ่งที่ผ่านค่าธรรมเนียมการทวงหนี้จะได้รับเมื่องานสำเร็จซึ่งมีสัดส่วนต่ำลงมากในช่วงโควิด

ขณะที่ นายเมธ์ ปุ่มเป้า รองนายกสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ไทย ระบุว่า หากค่าธรรมเนียมที่ได้รับต่ำเกินกว่าต้นทุนก็อาจจะมีการปรับลดพนักงานลง หรืออาจมีบางส่วนเลิกกิจการไป ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น


ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัททวงถามหนี้ในระบบมีจำนวนมาก แต่ที่อยู่ในสมาคมมีจำนวน 71 บริษัท หรือ คิดเป็นร้อยละ 40 โดยมีพนักงานรวม 16,000 คน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง