กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ วานนี้ ระบุว่า นายอี แจ-ยอง วัย 53 ปี รองประธานบริหารของ บริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนึ่งในนักโทษจำนวน 810 คน ซึ่งจะได้ออกจากเรือนจำก่อนกำหนด โดยการปล่อยตัวจะเกิดขึ้นในช่วงสายของวันศุกร์ที่ 13 ส.ค.นี้ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องในโอกาสวันฉลองอิสรภาพเกาหลีที่รอดพ้นจากความพยายามครอบครองเกาหลีของญี่ปุ่นเมื่อปี 2488 ซึ่งตรงกับวันที่ 15 ส.ค.ของทุกปี และ ตามธรรมเนียมจะมีการปล่อยตัวนักโทษเพื่อความสมานฉันท์ภายในประเทศ
ขณะที่ในปีนี้ รัฐบาลยังพิจารณาปล่อยตัวนักโทษโดยคำนึงถึงการระบาดของโคโรน่าไวรัส 2019 เพื่อลดความแออัดภายในเรือนจำด้วย จึงมีการตัวในปีนี้มีจำนวนมากเป็นพิเศษ
สำหรับกรณีนายอี ทายาทซัมซุงนั้นเขาถูกศาลตัดสินจำคุก 5 ปี เมื่อเดือน ส.ค. 2560 ในข้อหาติดสินบนและฟอกเงิน ซึ่งเป็นการขยายผลสืบสวนคดีใหญ่ จากการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบของอดีตประธานาธิบดี ปาร์ค กึนเฮ ซึ่งถูกตัดสินจำคุกนาน 20 พร้อมพวกอีกหลายคน
อย่างไรก็ตาม ศาลอุทธรณ์ ได้สั่งระงับโทษของนายอี หลังจากได้รับโทษมาแล้วเกือบ 1 ปี และ ยกฟ้องหลายข้อหา กระทั่งเวลาต่อมา อัยการได้รื้อคดี และ ยื่นฟ้องใหม่ ทำให้นายอี ถูกพิพากษาจำคุกอีกครั้งเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นเวลา 2 ปี ครึ่ง โดยให้นับต่อจากการรับโทษก่อนหน้านั้นแล้ว เท่ากับว่านายอี แจ-ยอง ได้รับโทษในเรือนจำไปแล้วประมาณ 18 เดือนจากทั้งหมด 30 เดือน ซึ่งถือว่า นายอี แจ-ยอง รับโทษจำคุกเกิน 60% ของบทลงโทษแล้ว จึงเข้าข่ายขอรับการพิจารณาปล่อยตัวภายใต้เงื่อนไข
อย่างไรก็ตาม นายอี แจ-ยอง จะยังไม่สามารถกลับเข้าไปบริหารซัมซุงได้ทันที เนื่องจากกฎหมายอาชญากรรมทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ ห้ามบุคคลซึ่งต้องคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่า 500 ล้านวอน หรือ ราว 14.5 ล้านบาท ทำงานให้กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับความผิดนั้น เป็นเวลา 5 ปี โดยการนับเวลาจะเริ่มตั้งแต่วันแรกที่บุคคลนั้นได้รับอิสรภาพ