หลังจาก “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี กลายเป็นอีกหนึ่งฮีโร่สาวที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสมาคมมวยสากลของไทยด้วยการคว้าเหรียญทองแดงแรกในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 มาครองได้สำเร็จ ถือเป็นการสิ้นสุดการรอคอยมาถึง 9 ปี ล่าสุด “น้องแต้ว” เปิดใจว่า การได้เหรียญทองแดงครั้งนี้เหมือนเป็นการพลิกชีวิตตนและครอบครัวในชั่วพริบตา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยฝันไว้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
ฮีโร่สาวโตเกียวเกมส์ กล่าวว่า ก่อนที่จะเดินทางมาตนพูดกับตัวเองว่าหากไม่ประสบความสำเร็จได้เหรียญกลับไปก็พร้อมจะสู้ใหม่อีกครั้งในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส แต่ถ้าไปไม่ถึงฝันการได้บรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารเรือก็ถือเป็นความสำเร็จในเบื้องต้น และตนก็เตรียมลู่ทางด้วยการทำอาชีพเสริมซึ่งหนึ่งในนั้นคือการทำธุรกิจเล็กๆ เปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเองเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว จากนั้นก็จะเก็บหอมรอบริบจากการเป็นนักมวยทีมชาติสักก้อนเพื่อซื้อที่ดินในจังหวัดอุดรเก็บไว้ทำนาทำสวนทำไร่ แบบเศรษฐกิจพอเพียงและซ่อมแซมปรับปรุงบ้านให้กับแม่
“น้องแต้ว” กล่าวอีกว่า ตอนนี้ฝันต่างๆ ที่ตนตั้งใจไว้เกิดขึ้นแล้วหลังจากได้รางวัลแห่งความสำเร็จครั้งนี้ ตนคิดไว้แล้วว่าหลังจากพ้นการกักตัวหากไม่ติดคิวอะไรที่ทางสมาคมมวยฯวางไว้ ตนก็จะกลับบ้านไปหาแม่ทันทีเพราะคิดถึงมากๆ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว จากนั้นก็จะกลับไปหารือว่าต่อจากนี้เราจะเริ่มต้นกันอย่างไรก่อนตามฝันที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก ที่แน่ๆ ตนจะต้องซื้อบ้านหลังใหม่ให้แม่เพื่อให้แม่มีความสุข รวมถึงบริจาคให้ 5 แสนบาทในการซื้อเครื่องมือแพทย์ที่โรงพยาบาลในจังหวัดอุดร
อย่างไรก็ตามความสำเร็จในวันนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีเพื่อนนักมวยทุกคนในทีมชาติที่ร่วมฝึกซ้อมกันมา สต๊าฟโค้ชที่คอยดูแลเคี่ยวเข็ญจนตนกล้าแกร่ง สมาคมมวยฯ ที่ให้โอกาส คุณสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานพัฒนาเทคนิคฯ ที่คอยสนับสนุนและสอนสั่งตนมาตลอด รวมถึงพ่อแม่ที่จับตนชกมวยมาตั้งแต่เล็ก ที่ขาดไม่ได้เลยท่านผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ที่ให้การสนับสนุนและให้รางวัลด้วยการให้ตนบรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารเรือเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต และขอมอบความสำเร็จและความสุขครั้งนี้ให้กับคนไทยทั้งประเทศ“น้องแต้ว” กล่าวตอนท้าย
