วานนี้(7 ส.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปไม้แห่งหนึ่ง ที่บริเวณ ม.4 ต.บ้านฉาง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ด้านรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางหลวง เทศบาลตำบลบางเดื่อ เทศบาลเมืองปทุมธานี เทศบาลเมืองบางคูวัด เทศบาลตำบลบ้านกลาง รถน้ำอบจ.ปทุมธานี และพื้นที่ข้างเคียงมากกว่า 20 คัน พร้อมหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยอีกหลายหน่วยงานรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองปทุมธานี จำนวนหนึ่ง อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊งวัฒนะปทุมธานี
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานแปรรูปไม้ และขายส่งไม้แปรรูปลักษณะเป็นโกดังขนาดใหญ่ ภายในมีไม้ที่อยู่ระหว่างรอการแปรรูป และที่แปรรูปแล้วเสร็จรอการจัดจำหน่ายจำนวนมากปลูกสร้างบนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ พบแสงเพลิง และกลุ่มควันพุ่งมาจากกองไม้ที่อยู่ด้านในโกดังโดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เพราะไม้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีประกอบกับมีกระแสลมแรงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วและลุกลามไปรวดเร็ว แสงเพลิงและกลุ่มควันสีแดงลอยขึ้นสู่ท้องฟ้ามองเห็นได้จากระยะไกล เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงแต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้เพราะเพลิงได้ขยายวงกว้าง จนเวลาผ่านไปกว่า 4 ชม. ยังไม่มีท่าทีว่าจะสามารถควบคุมเพลิงได้ เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ สาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนค่าเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
นางสาวสะไบแพร นามวงศ์ อายุ 25 ปี เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองทำงานอยู่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยในบริษัทดัง จากนั้นก็มีลุงคนหนึ่งบอกว่าไฟไหม้จึงช่วยกันนำถังดับเพลิงไปดับเพลิงที่ระหว่างลุกกองไม้แต่เพลิงนั้นลุกลามอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถดับได้จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ซึ่งขณะเกิดเหตุมีพนักงานทำอยู่บางส่วนไม่ถึง 10 คน เบื้องต้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ด้านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า จุดเกิดเหตุเป็นโรงงานไม้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจึงได้ระดมรถดับเพลิงจากหลายพื้นที่เข้ามาเพื่อคุมสถานการณ์และมีการใช้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยามาใช้ในการดับเพลิง แต่ที่เกิดเหตุมีกระแสลมแรง
ต่อมา พ.ต.ท.ขจร ฉัตรแก้วมณี สว.สอบสวนสภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพเป็นหลักฐาน และสอบปากคำพยานบุคคลไว้เป็นหลักฐาน และจะได้มีการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อย่างแท้จริงแต่ต้องรอเพลิงสงบและหมดอุณหภูมิความร้อนก่อน
กระทั่งเวลา 06.00 น. วันนี้(8 ส.ค.) ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังต้องฉีดน้ำควบคุมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเพลิงยังไม่สงบ ล่าสุด 9.00 น. มีรายงานว่าสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากยังมีไม้ที่มีความร้อนอยู่ และยังคงมีเปลวไฟเล็กน้อย