รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน Community Isolation ต.บึงยี่โถ และให้กำลังใจบุคลากร รพ.ธัญบุรี กำชับฉีดวัคซีนเข็มสามให้ครบถ้วนรวดเร็ว พร้อมมอบวัคซีน 1 หมื่นโดสฉีด อสม.
วันนี้ (6 สิงหาคม 2564) ที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานดูแลผู้ป่วยโควิด 19 ในชุมชน (Community Isolation) ต.บึงยี่โถ และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลธัญบุรี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นโยบายการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19 กลุ่มที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย คือ การดูแลรักษาที่บ้าน (Home Isolation) และที่ชุมชน (Community Isolation) ทั้งนี้ จ.ปทุมธานีมีการจัดตั้ง Community Isolation ในทุกตำบล โดยเทศบาลเมืองบึงยี่โถได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามบึงยี่โถเป็น Community Isolation ในพื้นที่สนามกีฬาบึงยี่โถมีขนาด 100 เตียง เปิดบริการเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 มีบุคลากรทางการแพทย์จากศูนย์การแพทย์และฟื้นฟู บึงยี่โถมาดูแลให้การรักษาแล้ว 94 ราย ยังอยู่ระหว่างรักษา 58 ราย หากมีอาการมากขึ้นจะมีการประสานส่งต่อรักษาในโรงพยาบาลธัญบุรี
นายอนุทินกล่าวอีกว่า วันนี้ได้มาให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลธัญบุรี โดยกำชับขอให้เร่งฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสให้ครบถ้วนโดยเร็ว เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัยและวันนี้ยังได้จัดสรรวัคซีนโควิด 19 จำนวน 1 หมื่นโดสมาฉีดให้แก่ อสม.ในพื้นที่ จ.ปทุมธานีด้วย เนื่องจากเป็นบุคลากรด่านหน้าที่ลงพื้นที่สอดส่องดูแลชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่ ขอให้ช่วยให้ข้มูลมีการคัดกรอง หากติดเชื้อช่วยให้เข้ารับการดูแลอย่างเหมาะสม
“ในเดือนสิงหาคมได้จัดสรรวัคซีนกระจายไปต่างจังหวัดมากขึ้น หลังฉีด กทม.ได้ค่อนข้างครอบคลุมแล้ว โดยเน้นฉีดกลุ่มเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัว 7 โรค และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปเพื่อลดการป่วยอาการรุนแรงและเสียชีวิต รวมถึงลงพื้นที่เชิงรุกฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มติดบ้านติดเตียง”นายอนุทินกล่าว
ทั้งนี้ จ.ปทุมธานีเป็น 1 ใน 29 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยวันที่ 5 สิงหาคม 2564 มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 463 ราย สะสมตั้งแต่ระลอกเมษายน 2564 รวม 22,032 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 10,790 ราย ฉีดวัคซีนโควิด 19 สะสม 392,551 คน เป็นบุคลากรทางการแทพย์ 18,016 คน ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 85,806 คน คิดเป็น 50.05% จากเป้าหมาย 171,441 คน ส่วน 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 67,008 คน คิดเป็น 80.71% จากเป้าหมาย 83,021 คน
#โควิด #วัคซีนโควิด #ไฟเซอร์ #บูสเตอร์โดส #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29