คัดลอก URL แล้ว
“ยุทธพงศ์” จวก กมธ.งบ 65 ฝั่งรัฐบาลมีผลประโยชน์หรือไม่ หลังผ่านงบกองทัพเรือ ลดไปแค่ล้านบาท

“ยุทธพงศ์” จวก กมธ.งบ 65 ฝั่งรัฐบาลมีผลประโยชน์หรือไม่ หลังผ่านงบกองทัพเรือ ลดไปแค่ล้านบาท

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณีการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 โดยนายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ในการพิจารณางบประมาณจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพวานนี้ (31 ก.ค. 64) คณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 จำนวน 3.1 ล้านล้านบาท ในชั้นกรรมาธิการ ปรับลดงบประมาณไปได้เพียง 16,363 ล้าน และในวันพรุ่งนี้ (2 ส.ค. 64) จะมีนัดประชุมเพื่อแปรญัติยอดปรับลดที่รัฐมนตรีเสนอมา 1.2 แสนล้านบาทต่อไปด้วย

นายยุทธพงษ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการพิจารณางบฯ​ คือการปรับลดงบประมาณกองทัพเรือ จากคำของบฯ 41,307 ล้าน ปรับลงเพียง 1 รายการ คือรถประจำตำแหน่งพลเรือเอก จำนวน 5 คัน คันละ 1.67 ล้าน รวม 8.38 ล้าน เมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยงานอื่น เช่น กองทัพบก คำของบฯ 99,377 ล้านบาท ปรับลด 1,100 ล้านบาท กองทัพอากาศ คำของบฯ 38,404 ล้านบาท ปรับลด 510 ล้านบาท แต่เหตุใดกองทัพเรือ คำของบฯ 41,307 ล้านบาท กลับปรับลดเพียง 8.38 ล้านบาทเท่านั้น จึงอยากสอบถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพราะมีคำสั่งจากบิ๊กรัฐบาลให้ช่วยเหลือกองทัพเรือ จริงหรือไม่

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ความไม่โปร่งใสของกองทัพมีหลายข้อ ได้แก่ ปลัดบัญชีทหารเรือ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการชี้แจงการของบประมาณ ไม่เคยเข้ามาชี้แจงงบฯ แต่กลับส่งพลเรือเอกธีรกุล กาญจนะ เสนาธิการทหารเรือ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงแทน รวมทั้งไม่ให้เอกสารรายละเอียดการจัดซื้อและเหตุผลในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ทั้งนี้ในการสั่งซื้อเรือรบ LPD ราคา 6,200 ล้านบาท ฝ่ายค้านท้วงติงชะลอการสั่งซื้อ เพราะต้องมีงบฯ เพื่อจัดซื้ออาวุธตามมา แต่ กมธ.ฝั่งรัฐบาลกลับบอกมีเรือรบได้โดยไม่จำเป็นต้องมีอาวุธ จึงอยากสอบถามว่าหากเรือรบที่ไม่มีระบบอาวุธ จะสั่งซื้อทำไม

นอกจากนี้ยังไม่เลื่อนการสั่งซื้อโดรน 3 ตัว ตัวละ 1,400 ล้านบาท สัญญาผูกพันไปถึงปี 2568 มูลค่ารวม 4,100 ล้านบาท โดยให้เหตุผลความจำเป็นด้านความมั่นคงซึ่ง กมธ.ฝั่งรัฐบาลทั้งหมดยกมือให้ผ่าน แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันไม่ร่วมสังฆกรรมในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆ ในเวลานี้ จึงขอวอล์กเอาต์ และตั้งคำถามว่า กมธ.ของรัฐบาลทั้ง 36 คน เข้าข่ายกระทำผิด ม.144 มีส่วนได้เสียทางตรงหรือทางอ้อมกับหน่วยงานเหล่านั้นหรือไม่ และอยากให้ประชาชนจดจำใบหน้าของ กมธ. ฝั่งรัฐบาลทั้ง 36 คนในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย อาทิ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นายสันติ พร้อมพัฒน์ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ โดยเฉพาะนายเรืองไกร คือเจ้าของญัตติเสนอให้ผ่านงบฯ กองทัพเรือ พร้อมกันนี้จะเตรียมยื่นหนังสือถึงประธาน ปปช. และนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้ตรวจสอบที่มาของรถหรูป้ายแดงที่นายเรืองไกรกล่าวอ้างว่ามีผู้ใหญ่ใจดีมอบให้ มีส่วนได้เสียทางตรงหรือทางอ้อม กับการพิจารณางบฯ 65 หรือไม่

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงวันที่ 12 สิงหาคมนี้ ก่อนการอภิปรายงบประมาณประจำปี 2565 ในวาระ 2-3 โดยได้สงวนคำแปรญัติลดงบกองทัพเรือลง 5,000 ล้านบาท และให้โหวตอย่างเปิดเผย

“ผมขอจองกฐิน พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงความไม่ชอบมาพากล ส่อถึงความไม่โปร่งใสของกองทัพที่จัดซื้ออาวุธท่ามกลางความอดอยากของประชาชน กองทัพเห็นอาวุธสำคัญกว่าความอดอยากเดือดร้อนของประชาชน” นายยุทธพงศ์กล่าว

ด้านนายจิรพงษ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดการพัฒนาขีดความสามารถกองทัพ เพื่อเอาเงินมาเยียวยาประชาชนเร่งด่วน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ เร่งเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยง และเพิ่มค่าเสี่ยงภัย 2.กลุ่มผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต ขาดเสาหลัก ไม่มีเงินดำรงชีวิตต่อไป และ 3.กลุ่มบุคคลทั่วไป

“สถานการณ์ขณะนี้ประชาชนช่วยเหลือกันเอง รัฐช่วยเหลืออะไรประชาชนได้บ้าง เงินกู้ 1.5 ล้านบาท หายไปไหน หนี้ครัวเรือนเพิ่ม การเยียวยาประชาชน ม.33 เพียง 2,000-5,000 บาท เฉพาะ 13 จังหวัดไม่เพียงพอ เพราะประชาชนเดือนร้อนทั่วประเทศ ขอย้ำว่า ต้องเอาเงินกองทัพมาเยียวยาเพิ่มเติมประชาชน ขอให้ทำงานประชาชนมากกว่านี้ อย่าปิดปากประชาชนที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม” นายจิรพงษ์ กล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง